สัปดาห์ที่ 2 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า การจุดเทียนเล่มที่ 2 เครื่องหมายของความเชื่อ เมื่อพูดถึงความเชื่อ เราแต่ละคนมีประสบการณ์ต่างกัน เราเชื่อเรื่องราวที่มีคนมาเล่าให้ฟัง เชื่อในสื่อออนไลน์ที่มีการส่งต่อกันมา เชื่อและคล้อยตามเมื่อมีคนพูดหรือแสดงความคิดเห็น ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเชื่อในเรื่องที่ตนเองชอบ ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อในเรื่องบางเรื่องที่เป็นความจริงและควรจะเชื่อ พระศาสนจักรเชื้อเชิญเราทุกคนมองดูการเตรียมรับเสด็จฯ ให้เราได้มาคิดถึงเหตุการณ์การบังเกิดมาเป็นมนุษย์ของพระเจ้า มีข้อความที่บอกเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในความเชื่อของพวกเรา พระองค์จะเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์และประทับในชีวิตของพวกเราแต่ละคน
การเตรียมถ้ำพระกุมาร ทำให้คิดถึงวันเวลาและสถานที่ที่พระกุมารเสด็จบังเกิดเป็นมนุษย์ ในยุคสมัยของเราการคลอดบุตร แทบจะไม่มีใครคลอดบุตรที่บ้าน แต่จะเป็นที่โรงพยาบาล สถานที่ที่พ่อแม่ได้เลือกและมีความมั่นใจว่า การคลอดบุตรจะมีความปลอดภัยทั้งแม่และทารกที่เกิดมา รวมทั้งได้รับการอำนวยความสะดวกครบถ้วน การบังเกิดมาของพระกุมารในช่วงเวลานั้น พระนางมารีย์เดินทางไปที่ตำบลเบธเลเฮม และใกล้ถึงเวลาคลอด ที่นั่นไม่มีที่พักแรมในโรงแรมหรือบ้านเช่าเลย มีเพียงคอกสัตว์ที่ได้อาศัยพักค้างแรม และที่นั่นเองพระนางมารีย์คลอดบุตร ได้เอาผ้าพันกายทารกนั้น วางนอนในรางหญ้าที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ไม่มีอุปกรณ์เครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ ไม่มีอุปกรณ์กันหนาว ไม่มีที่นอนที่อ่อนนุ่ม เพียงแต่ได้ไออุ่นจากสัตว์ที่นอนกันอยู่ในคอกสัตว์นั้น มีเพียงบรรดาคนเลี้ยงแกะที่เฝ้าฝูงแกะได้มาแสดงความยินดีกับการเกิดมาของทารกนั้น พระองค์เสด็จมาบังเกิดอย่างยากจนเช่นนั้น ไม่มีใครให้ความสนใจสามีภรรยายากจนที่คลอดลูกในคอกสัตว์ แต่ว่าทารกคนนั้นคือพระบุตรของพระเจ้า
การเตรียมรับเสด็จในช่วงเทศกาลนี้มีความหมาย 2 ประการ ประการแรกก็คือการเตรียมการฉลองในวันคริสตมาส เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่พระองค์เสด็จมาบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์ แต่ก็ยังมีความหมายอีกประการหนึ่ง คือการที่เราได้เตรียมตัวของเรารอคอยการเสด็จมาของพระเจ้าเพื่อครอบครองชีวิตของเราทุกคน จึงเรียกร้องให้มีการกลับใจ การทำกิจใช้โทษบาป เตรียมใจให้สะอาดพร้อมต้อนรับการเสด็จมาของพระองค์ ที่จะมาประทับในชีวิตของทุกคน
ยอห์นบัปติส เป็นผู้ที่มาก่อนเพื่อเตรียมจิตใจของประชาชน ท่านได้เทศน์สอนและดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง โดยการใช้ชีวิตโดดเดี่ยว สมถะ ในทะเลทราย มีประชาชนไปถามท่านว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ยอห์นได้บอกพวกเขาเหล่านั้นให้เปลี่ยนการดำเนินชีวิต ความจริงเป็นการให้พวกเขาเปลี่ยนวิธีคิด จากการที่คิดถึงแต่ตัวเองก็ให้คิดถึงคนอื่น ไม่ใช่เพียงแค่คิด แต่ให้ลงมือปฏิบัติด้วย โดยการแบ่งปันช่วยเหลือคนที่ยากไร้ คนที่ไม่มี ท่านยังได้แนะนำคนที่มีบทบาทในการเป็นผู้นำคนอื่น ให้ใช้อำนาจด้วยความเที่ยงตรง ยุติธรรม ไม่ใช้อำนาจเพื่อเอาเปรียบ ท่านยังสอนให้มีใจเมตตาต่อกัน การเตรียมตัวในเทศกาลนี้ไม่ใช่เพียงแต่คิดดี ถูกต้องเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือให้ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังด้วย
อาสนวิหารอัสสัมชัญ มีลักษณะพิเศษมากกว่าวัดอื่นอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เป็นวัดประจำของพระสังฆราช มีอาสนะซึ่งหมายถึงอำนาจการปกครองของพระสังฆราช หลายปีมาแล้วได้มีการบูรณะอาสนวิหารอัสสัมชัญ และได้มีการเสกในวันที่ 13 ธันวาคม วันที่ 13 จึงเป็นวันระลึกถึงการถวายอาสนวิหาร มีบางปีที่จัดฉลองตรงวัน สำหรับในปีนี้ได้เลื่อนการฉลองไปจัดในวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม โดย พระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช จะมาเป็นประธาน มิสซาเวลา 08:30 น.
ทางวัด กำลังจะเตรียมกิจกรรมเพื่อการฉลองคริสตมาส การเตรียมจิตใจเป็นส่วนสำคัญ มีวจนพิธีกรรมเพื่อการเตรียมจิตใจอีก 2 ครั้ง เย็นวันอาทิตย์นี้และวันอาทิตย์หน้า ในคืนวันอาทิตย์ที่ 24 คืนวันฉลองคริสตมาส เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ทางวัดได้จัดให้มีกิจกรรมแบ่งปันความสุข ฟังดนตรี กิจกรรม เกมส์ และการสอยดาว หากพี่ที่น้องประสงค์อยากมีส่วนร่วม ก็สามารถแจ้งความประสงค์ ติดต่อที่สำนักงานวัด จะสนับสนุนเป็นของรางวัลหรือปัจจัยก็ได้ กิจกรรมความสุข สนุกสนานจะสิ้นสุดเวลา ประมาณ 21.00 น. จากนั้นก็จะเป็นการเตรียมเพื่อเข้าสู่มิสซาสมโภชพระคริสตสมภพ เริ่มด้วยละครคริสตมาส เวลา 22.00 น.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์