อาทิตย์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ เทียนสีบานเย็นจะถูกจุดในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นเครื่องหมายถึงความชื่นชมยินดี ตามธรรมเนียมดั้งเดิมของพระศาสนจักร เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ จะเป็นช่วงเวลาของการอดอาหาร 40 วัน เพื่อเตรียมฉลองคริสต์มาส ภายหลังจึงปรับลดลงเหลือเวลาเพียง 4 สัปดาห์ และเพื่อเลียนแบบเทศกาลมหาพรต ซึ่งมีช่วงเวลาแห่งความยินดีอยู่ช่วงกลางๆ ที่พระสงฆ์จะสวมอาภรณ์กาสุลาสีบานเย็น ในสัปดาห์ที่ 3 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ พระสงฆ์ก็สวมอาภรณ์ประกอบพิธีฯ สีบานเย็นเช่นเดียวกัน เพื่อบ่งบอกว่าความชื่นชมยินดีอยู่ใกล้แล้ว
ความคิดของการเตรียมรับเสด็จฯ เป็นการเตรียมจิตใจต้อนรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าและยังหมายถึงการที่พระองค์จะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งในอนาคต ซึ่งควรจะเป็นความชื่นชมยินดีของพวกเราทุกคน เครื่องหมายและสัญลักษณ์ของความชื่นชมยินดีในรูปแบบหนึ่งที่เราสัมผัสได้ในเทศกาลนี้ก็คือของขวัญ การให้และการรับของขวัญ การได้รับของขวัญเป็นความชื่นชมและความสุขมาสู่ผู้รับ รวมทั้งเป็นความสุขของผู้ที่ให้ ความยินดีของคนได้รับอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ของขวัญหรือสิ่งของนั้นๆ แต่เป็นความรู้สึกของความสุขใจที่เกิดขึ้นจากการได้รับของขวัญ ของขวัญที่มีคุณค่ามากที่สุดในเทศกาลคริสต์มาส คือของขวัญจากพระเจ้า ซึ่งเป็นความชื่นชมและความสุข ที่พระองค์ได้มอบชีวิตของพระเป็นของขวัญให้กับเราทุกคน
ความหมายของเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ นี้ยังหมายถึงการรอคอย เราต่างมีประสบการณ์เรื่องการรอคอยช่วงเวลาสำคัญๆ ที่จะมาถึง รอคอยวันสอบซึ่งบรรดาเด็กๆ นักเรียนจะต้องอ่านหนังสือและเตรียมตัวเพื่อการทำข้อสอบ หนุ่มสาวที่ตัดสินใจแต่งงานและกำหนดวันแต่งงานทั้งสองจะต้องวางแผนจัดเตรียมหลายสิ่งหลายอย่าง งานเลี้ยง ขั้นตอนต่างๆ การติดต่อ ในขณะที่รอคอยวันแต่งงานที่จะมาถึง เพื่อว่าเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ทุกอย่างจะดำเนินไปตามขั้นตอนอย่างเรียบร้อย เรากำลังรอคอยวันฉลองคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง บางคนอาจจะมีความตื่นเต้นยินดี แต่บางคนก็ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ เพราะที่ผ่านมาก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เดี๋ยวก็มาถึงแล้วก็ผ่านเลยไป การเตรียมต้อนรับการบังเกิดของพระเยซูเป็นเรื่องของความเชื่อ หากไม่ได้คิดไตร่ตรองและเชื่อว่าพระเจ้าทรงเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์และประทับอยู่กับเราการฉลองคริสต์มาสก็เพียงงานรื่นเริงที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปอีกปี
คริสต์มาสไม่ใช่วันที่พวกเราเท่านั้นที่รอคอย แต่เป็นวันที่พระเจ้าก็ทรงรอคอยเพื่อจะได้เสด็จมาพบปะและประทับอยู่กับมนุษย์ทุกคน เมื่อมองในมุมที่พระเยซูเจ้าผู้เป็นพระบุตรพระเจ้าเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงมีสถานะเปรียบเหมือนลูกของกษัตริย์ การลงมายังโลกมนุษย์ตัวคนเดียวตามลำพัง พระองค์คงจะคิดเหมือนกันว่า คงจะมีผู้คนมากมายที่เป็นประชากรของพระองค์ให้การต้อนรับและรอคอยการเสด็จมาของพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าไม่พบการต้อนรับและการรอคอยด้วยความตื่นเต้นยินดีจากบรรดามนุษย์ พระกุมารก็คงจะมีความรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใครคอยเหลียวแล วันคริสต์มาสน่าจะเป็นวันแห่งความสุขของพระกุมาร ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพวกเราทุกคนที่เฝ้ารอคอยวันเวลาที่พระองค์เสด็จมา
วันอาทิตย์หน้าจะเป็นวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ภาคเช้ายังคงเป็นเวลาเพื่อเตรียมจิตใจ ส่วนในตอนค่ำก็เป็นมิสซาสมโภชคริสต์มาส ตอนเย็นจะมีกิจกรรมเพื่อความสนุกและบันเทิง มีบริการจำหน่ายอาหาร ในบริเวณลานด้านหน้าวัด ตั้งแต่เวลา 17.00 น. สลับด้วยกิจกรรมและเกมส์ Bingo พร้อมด้วยบรรยากาศ เสียงเพลงคริสต์มาส ในบริเวณโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา ก็จะมีกิจกรรมสอยดาว กิจกรรมต่างๆ ในภาคบันเทิงจะจบลงในช่วงเวลาประมาณ 21:00 น. จากนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาการเตรียมสถานที่และเตรียมความสงบเพื่อเข้าสู่ภาคพิธีกรรม เริ่มด้วยการรับศีลอภัยบาป และเมื่อถึงเวลาประมาณ 22:00 น. จะเริ่มการแสดงละครคริสต์มาสเพื่อนำพาให้เข้าสู่บรรยากาศและความหมายของการฉลองคริสต์มาส เวลา 22.30 น. จะเริ่มพิธีมิสซาสมโภชฯ และตอนปลายมิสซา ทางสภาภิบาลวัดก็จัดเตรียมของขวัญของรางวัลให้พี่น้อง เพื่อเป็นการมอบและแบ่งปันความสุขใจให้กันและกัน เราเหลือเวลาเตรียมตัวอีกเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น ขอการฉลองคริสต์มาสได้เป็นเวลาแห่งการได้พบกับพระเจ้า ที่จะนำความสงบสุขแท้จริงมาให้พี่น้องทุกคน.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์