ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวทางทีวีเป็นเรื่องราวการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชน มีการรวมกลุ่มกันร่วมมือการกระทำความผิด คงจะเป็นความรู้สึกอันเดียวกันเมื่อได้ยินว่ามีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น หากผู้กระทำผิดเป็นผู้ใหญ่ก็เคยได้ยินอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้ยังเป็นเด็กและเยาวชน เป็นเรื่องน่าตกใจอยู่เหมือนกัน การบังคับใช้กฎหมายก็มีความซับซ้อนเนื่องจากยังเป็นผู้เยาว์ และก็คงจะใช้กฎหมายเพื่อจะควบคุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในสังคมอย่างเดียวไม่ได้ เราอาจจะไม่ได้คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา แต่มันก็มีอยู่และมีบ่อยขึ้นด้วย
การอบรมสั่งสอนลูกตั้งแต่เด็กของพ่อแม่ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญ หรือจะพูดว่าครอบครัวคือสถานที่ที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับบรรดาเด็กและเยาวชนลูกหลานของเรา หากพวกเขาได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว การแนะนำ การสอนด้วยความเอาใจใส่ เป็นสถานที่ที่อบอุ่นและปลอดภัยของพวกเขา ในยุคสมัยนี้ การอบรมเลี้ยงดูลูกๆ ก็เป็นเรื่องยาก เด็กๆ มีช่องทางที่จะรับรู้เรื่องราวจากสื่อต่างๆ เป็นแนวโน้มให้พวกเขาเลียนแบบ มีทั้งดีงามถูกต้องและที่ไม่ถูกต้องก็มีมากมาย เป็นความยากลำบากอย่างมากของผู้เป็นพ่อแม่ และบางครั้งก็เป็นความทุกข์ใจที่ลูกๆ ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความคาดหวัง เพียงแต่พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทางหรือผิดพลาดก็นับว่าโชคดี คิดถึงคำสุภาษิตไทย “ไม้อ่อนดัดง่าย” การสอนลูก ดูแลตั้งแต่เด็กจึงเป็นส่วนสำคัญ พวกเขาเรียนรู้จากทุกเหตุการณ์ที่เขาสัมผัส หากเขาได้รับความอบอุ่นเอาใจใส่จากพ่อแม่ ได้เห็นความสัมพันธ์เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันในครอบครัว ญาติพี่น้องที่แสดงต่อกัน ก็จะเรียนรู้และเลียนแบบ วันนี้จึงอยากให้เราได้ช่วยกัน แม้จะเล็กน้อย แต่เราจะทำในส่วนที่เราทำได้ ช่วยกันดูแลลูกๆ พวกเขาจะได้เติบโตเป็นคนดีและไม่ก่อให้เกิดความลำบากหรือเป็นปัญหาให้คนอื่นต่อไป
วันเสาร์ที่จะถึงนี้จะตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 40 วันการบังเกิดของพระเยซู เป็นวันฉลองการถวายพระเยซูเจ้าที่พระวิหาร บางครั้งก็เคยเรียกว่าเป็นวันฉลองแม่พระถือศีลชำระ พระวรสารบันทึกเรื่องราวไว้ว่า แม่พระได้นำพระกุมารไปที่พระวิหารเยรูซาเล็ม เพื่อทำตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ว่า หญิงที่คลอดบุตรชายเมื่อครบ 40 วัน ให้นำบุตรชายหัวปี ไปถวายแด่พระเจ้าและถวายเครื่องบูชาด้วยนกสองตัว ยังเป็นโอกาสชำระตนให้บริสุทธิ์ของผู้เป็นมารดาหากคลอดบุตรเป็นชาย จะเป็นมลทินไป 40 วัน คงจะมีคนเดินทางไปที่พระวิหารเพื่อปฏิบัติตามกฎเกณฑ์นี้มากมาย แต่ที่น่าแปลกก็คือขณะที่แม่พระอยู่ในพระวิหารนั้น ได้มีชายชราชื่อสิเมโอนเดินเข้ามาและพูดกับแม่พระว่า เขามีความสุขที่ได้พบกับผู้ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่า เขาจะมีชีวิตอยู่จนได้เห็นเด็กทารกคนนั้น สิเมโอนได้อุ้มพระกุมารและกล่าวคำทำนายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราเอลต้องล้มลงหรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้าน เพื่อความในใจของคนจำนวนมากจะถูกเปิดเผย”
มีธรรมเนียมเสกเทียนในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ การเสกเทียน มีความสำคัญและความหมายว่าเทียนคือแสงสว่าง เป็นแสงสว่างส่องโลกหรือแสงสว่างสำหรับนานาชาติ การที่พระเยซูเจ้าถูกถวายแด่พระเจ้าเมื่อพระองค์มีอายุ 40 วัน และแม่พระก็ได้ถวายเครื่องบูชาทดแทน พระเยซูเจ้าจึงอยู่กับแม่พระและชีวิตของพระองค์ก็เป็นแสงสว่างสำหรับนานาชาติ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันศุกร์ ทางวัดจะมีพิธีมิสซาเวลา 19:00 น เพื่อพี่น้องจะได้มาร่วมพิธีเสกเทียน ร่วมพิธีบูชามิสซาฉลองการถวายพระเยซูเจ้าที่พระวิหาร เทียนแบบดั้งเดิม ยังคงคุณค่าและทำให้เห็นความหมาย ทุกครั้งเมื่อจุดเทียน ไฟลุกไหม้ไส้เทียน จะให้ความร้อนและแสงสว่าง ขณะเดียวกันมันก็ค่อยๆ ทำให้ต้นเทียนละลาย ต้นเทียนยอมสลายตัวตนลง เพื่อเป็นความสว่างให้ผู้อื่น ซึ่งมีความหมายถึงพระเยซูเจ้า ชีวิตของพระองค์เป็นความสว่างสำหรับทุกคน ในบ้านคริสตชนทุกบ้าน จะมีเทียนเสกและจะจุดเวลาสวดพร้อมกัน แต่ปัจจุบันบ้านสมัยใหม่ก็ไม่อยากจุดเทียนในบ้านนานๆ เพราะจะทำให้เกิดคราบเขม่า ก็เลยไม่ค่อยจุดเทียนเสกในบ้านและบางบ้านก็อาจจะไม่มีเทียนเสก เป็นส่วนที่เริ่มขาดหายไปจากบ้านของคริสตชน…
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์