สวัสดีครับ พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน
ปีที่กำลังจะมาถึงจะเป็นปีศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักรสากล ได้มีการประกาศและเริ่มประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าจะมีกิจกรรมต่างๆ พระสันตะปาฟรังซิสจะกระทำพิธีเปิดในช่วงปลายปีนี้ที่กรุงโรม ด้วยการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาวิหารที่สำคัญทั้ง 4 แห่ง การเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์มีความหมายว่าเป็นประตูที่บรรดาคริสตชนจะได้เดินผ่านเข้าไปพบกับพระเมตตาของพระเจ้า การผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์เพื่อจะได้รับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ ซึ่งมีองค์ประกอบที่เรียกร้องให้ปฏิบัติ ก็คือการที่บุคคลนั้นจะทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ผู้นั้นจะต้องมีความเชื่อ มีการเตรียมจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยการรับศีลอภัยบาปและรับศีลมหาสนิท รวมทั้งการสวดบทภาวนาตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งเมื่อได้ทำตามเงื่อนไขอย่างครบถ้วนก็จะได้รับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์
วันฉลองวัดอัสสัมชัญ เป็นวันสมโภชการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีย์ ที่วัดของเรามีธรรมเนียมปฏิบัติจัดฉลองในวันที่ 15 สิงหาคม เสมอ ในปีไหนที่วันนั้นตรงกับวันอาทิตย์การฉลองก็จะจัดพิธีมิสซาเวลา 10:00 น. แต่หากว่าเป็นวันธรรมดาก็จะจัดขึ้นในเวลาเย็น ปีนี้การฉลองวัดของเรา ตรงกับวันพุธที่ 15 สิงหาคม พิธีมิสซาฉลองจะจัดเวลา 17:00 น. การฉลองวัดอัสสัมชัญในปีนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญ เพื่อระลึกถึงการครบรอบ 100 ปี การถวายมิสซังฯไทยแด่แม่พระ ในช่วงเวลานั้น พระสังฆราชเรอเน มารี โยเซฟ แปร์รอส ได้จัดให้มีกิจกรรมการถวายมิสซังฯไทย ในโอกาสฉลองวัดอัสสัมชัญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรดาคริสตชนทุกคน ได้มอบตนเองไว้ในความดูแลของแม่พระ ถวายพระศาสนจักรท้องถิ่น ไว้ในการปกป้องคุ้มครอง รวมทั้งยังมีวัตถุประสงค์เพื่อการแพร่ธรรม เพื่อพระศาสนจักรเติบโตขึ้น มีการภาวนาเพื่อจะมีผู้กลับใจมาเป็นคริสตชน เชิญชวนบรรดาคริสตชนได้ช่วยกันชักนำ นำพาให้มีผู้มารู้จักกับพระเจ้ามากขึ้น รวมทั้งยังได้กำหนดให้ทุกปี โอกาสวันฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ได้มีการสวดบทภาวนาถวายประเทศไทย ซึ่งก็ได้กลายเป็นธรรมเนียมที่เราปฏิบัติกันเรื่อยมา
ทางสภาพระสังฆราชแห่งประเทศไทย ได้กำหนดจัดเปิดการฉลองครบรอบ 100 ปี การถวายมิสซังไทยฯ ในโอกาสที่จะมีพิธีบวชสังฆานุกร ในวันนั้นจะมีพระสังฆราช พระสงฆ์ สัตบุรุษ ซึ่งถือเป็นตัวแทนของสังฆมณฑลต่างๆ ที่จะร่วมกระทำพิธีเปิด หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายกันไปทำพิธีเปิดในแต่ละสังฆมณฑล กิจกรรมรื้อฟื้นความเชื่อศรัทธาต่อแม่พระ ยังเป็นการเตรียมตัวเพื่อการฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาถึงด้วย
การถวายมิสซังไทยแด่แม่พระ ยังคงมีความหมายว่าบรรดาคริสตชนทุกคน ตั้งใจถวายตัวเองแด่แม่พระ ซึ่งเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุด บรรพบุรุษของพวกเราล้วนแต่เป็นคนที่มีความเชื่อศรัทธา ปีนี้ เราจะร่วมกันรื้อฟื้นและให้ความสำคัญเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เราต้องยอมรับว่าในยุคสมัยนี้ พวกเรามีความศรัทธาและสวดภาวนาน้อยลง ในอดีตพวกเรามีบรรพบุรุษที่คอยกระตุ้นเตือนดูแลให้ลูกหลานสวดภาวนา การไปวัดเพื่อร่วมมิสซา การแก้บาปและรับศีลมหาสนิท ขอให้พวกเราแต่ละคนจะกระตุ้นเตือนตนเอง มีความตั้งใจที่จะสวดภาวนา มีความเชื่อศรัทธา เพื่อเป็นการแสดงความเชื่อศรัทธาต่อแม่พระ และพระศาสนจักรท้องถิ่นแห่งนี้จะได้มั่นคงและเติบโตยิ่งขึ้น
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์