สวัสดีครับ พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เป็นไปตามแนวทางของพระศาสนจักรคาทอลิก ที่กำหนดไว้ในกฎหมายของพระศาสนจักรว่า เมื่อพระสังฆราชรวมทั้งพระสงฆ์ด้วย เมื่อมีอายุครบ 75 ปี ให้ยื่นหนังสือขอลาออกจากหน้าที่ที่รับผิดชอบ ก่อนหน้านี้จึงมีการอภิเษกพระสังฆราชใหม่เพื่อทำหน้าที่ปกครองสังฆมณฑลอุบลราชธานี ต่อมาก็ที่สังฆมณฑลนครสวรรค์ และมีอีก 2 สังฆมณฑลที่ยังรอการประกาศแต่งตั้งผู้จะทำหน้าที่เป็นประมุขของสังฆมณฑล ในส่วนของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ก็มาถึงช่วงเวลาที่พระสันตะปาปาฟรังซิส ได้ทรงอนุมัติการลาออกจากตำแหน่งพระอัครสังฆราชผู้ปกครองอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ของพระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช สำหรับอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มีความแตกต่างจากอื่น เนื่องจากยังมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยด้วย ซึ่งในเมืองไทยมีนิติบุคคลอยู่ 2 แห่งคืออัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และอัครสังฆมณฑลท่าแร่ หนองแสง ด้วยเหตุนี้เองเมื่อพระศาสนจักรรับหนังสือการขอพ้นจากตำแหน่ง จึงต้องมีการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองทันที ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของนิติบุคคลอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ด้วย
สำหรับสังฆมณฑลอื่น เมื่อตำแหน่งพระสังฆราชว่างลง ก็จะมีการสรรหา และเมื่อได้แล้ว ก็จะมีการอภิเษกเป็นพระสังฆราช แต่หากผู้นั้นเป็นสังฆราชอยู่แล้ว ก็จะมีเพียงพิธีการเข้ารับตำแหน่ง ไม่ต้องรับการอภิเษกฯ สำหรับอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ พระคุณเจ้า ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ ซึ่งเป็นพระสังฆราชปกครองสังฆมณฑลเชียงใหม่ ก็ยังคงอยู่ในสถานะเป็นพระสังฆราชของสังฆมณฑลเชียงใหม่ แต่ในเวลานี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ด้วย
สำหรับพวกเราสัตบุรุษของอาสนวิหารอัสสัมชัญ พระอัครสังฆราชฯ คือเจ้าอาวาสของอาสนวิหาร ได้มีการปรึกษาหารือถึงวันเวลาที่จะจัดพิธีมิสซาโมทนาคุณพระเจ้าเพื่อแสดงมุทิตาจิตขอบคุณพระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช และในเวลาเดียวกันก็เป็นการต้อนรับพระสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ สำหรับบรรดาพระสงฆ์ ก็จะใช้โอกาสการเข้าเงียบประจำเดือน ซึ่งจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า ส่วนสำหรับพี่น้อง บรรดานักบวชและสัตบุรุษทั่วไป จะใช้โอกาสวันฉลองอาสนวิหารอัสสัมชัญ วันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งในวันนั้นเองก็เป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีการถวายประเทศไทยแด่แม่พระด้วย.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์