พระเยซูคริสตเจ้าและความเรียบง่าย
เราเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า นอกเหนือไปจากการจัดเตรียมภายนอก ซึ่งสำหรับหลายๆคน หรือจะพูดให้ตรงกว่านั้นก็คือ สำหรับคนจำนวนมาก การจัดเตรียมภายนอก กลายเป็นนความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ เพราะไม่มิฉะนั้นก็จะเกิดความรู้สึกว่า มีบางสิ่งบางอย่างขาดไป ไม่ครบสมบูรณ์สำหรับเทศกาลฉลอง
สุดท้ายการจัดเตรียมภายนอก กลายเป็นภาระอันหนักอึ้ง สำหรับหลายๆคน และ กลายเป็นความทุกข์ของชีวิตในช่วงเวลานี้ เพราะกริ่งเกรงไปว่า ให้จัดภายนอกอย่างไม่ดี ไม่อลังการ ไม่เหมาะสม ก็จะถูกผู้อื่นตำหนิติเตียนช่วงเทศกาลงานใหญ่ๆ เลยกลายเป็นความทุกข์ เป็นความทุกข์แบบที่ไม่มีความจำเป็นเลยแม้แต่น้อย
สุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง ก็คือ เลยต้องบอกพวกเขาเหล่านั้นไปว่า อยากจะจัดอะไรก็จัดไป แต่อย่าลืมสิ่งที่เป็น แก่นสาระ อย่ามุ่งแต่ไปให้ความสำคัญแก่ กระพี้ (เนื้อไม้ที่อยู่ระหว่างเปลือกกับแก่น คนไทยจึงนำมาเรียก สิ่งที่ไม่เป็นแก่นสาร ว่า กระพี้)
คือ อย่าให้ความสำคัญแก่ กระพี้ มากกว่า แก่น
อะไรคือ แก่น ของ เทศกาลเตรียมรับเสด็จ? หรือ อะไรคือแก่น ของการรับเสด็จพระคริสตเจ้า?
ยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ขณะออกเทศน์เตรียมจิตใจของประชาชน ได้ใช้คำพูดของประกาศกอิสยาห์ว่า
“มีเสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม ภูเขาและเนินทุกแห่งจะถูกปรับให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะถูกทำให้ราบเรียบ แล้วมนุษย์ทุกคนจะเห็นความรอดพ้นจากพระเจ้า”
ทั้งยอห์น และ อิสยาห์ เตือนให้เรา รู้จักเตรียมชีวิต
ชีวิตที่ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นทางคดเคี้ยว
ชีวิตที่ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นหุบเหว ที่มีความลุ่มลึกสุดจะหยั่งถึง
ชีวิตที่เปรียบเทียบว่ามีความสลับซับซ้อน ประดุจภูเขาและเนิน
ชีวิตที่ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น ทางไม่ตรง คดไปเคี้ยวมา มิหนำซ้ำยังขรุขระไม่ราบเรียบ
ทั้งหลายทั้งปวงคือชีวิตที่สร้างปัญหาให้แก่ตัวเอง และแก่ผู้อื่นที่อยู่รอบข้าง
ชีวิตเช่นนี้ที่ต้องได้รับการปรับเปลี่ยน หรือ เปลี่ยนแปลง
ชีวิตที่จะต้องตรง ซื่อ ใสสะอาด
ชีวิตที่จะต้องไม่มีความลุ่มลึกแอบแฝง
ชีวิตที่จะต้อง ไม่ยกตัวให้สูงล้ำประดุจภูเขาที่ใครต่อใครเอื้อมไม่ถึง
ชีวิตที่จะต้องไม่คดในข้องอในกระดูก
ชีวิตที่จะต้องไม่มีความสลับซับซ้อนยากที่จะเข้าถึง
ชีวิตที่จะต้องไม่ขรุขระสร้างความรำคาญไม่เป็นสุขแก่บุคคลที่อยู่ร่วมด้วย ฯลฯ
สรุปสั้นๆ คือ ต้องทำชีวิตให้ราบเรียบ และเรียบง่าย ชีวิตที่ราบเรียบ และเรียบง่าย คือชีวิตที่เหมาะสมสำหรับการ เสด็จเยี่ยมเยียน ขององค์พระผู้ไถ่
พระเยซูคริสตเจ้าชอบความราบเรียบ และเรียบง่าย และพระองค์ทรงพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า พระองค์ทรงชอบความราบเรียบ และเรียบง่าย จากการดำเนินชีวิตของพระองค์เอง
ชีวิตของพระเยซูเจ้าราบเรียบและเรียบง่าย และพระองค์ทรงสอนความราบเรียบและเรียบง่าย แต่มนุษย์กลับดำเนินชีวิตด้วยความสลับซับซ้อน ต้องไอ้นั่น ต้องไอ้นี่ ยุ่งเหยิง ยุ่งยากไปหมด ความสลับซับซ้อนของคนยุคปัจจุบันเพิ่มทวีมากขึ้นเรื่อยๆ และสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่ละคนจะคิด และหวังไว้ว่า “ชีวิตของฉันต้องดีเท่าชีวิตของคนอื่น หรือต้องดีกว่าคนอื่น” และนี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหา
ให้ชีวิตกลับมาสู่ความราบเรียบและเรียบง่ายกันบ้าง เพื่อเราจะได้พบกับ องค์พระเยซูคริสตเจ้า และความสุขสันติ อย่างจริงๆ