“ความรักของพระ” ไม่ใช่“หมาหยอกไก่”
“เขาจะไม่เรียกเจ้าว่าผู้ถูกทิ้ง…เจ้าจะเป็นมงกุฎงามในพระหัตถ์ของพระเจ้า” (เทียบอสย 62:3-4)
ก่อนคริสต์มาส2012 และปีสวัสดีปีใหม่2013 มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผู้คนไม่ไปไหนเลิกงานแล้วพยายามกลับบ้านทันทีเพื่อเฝ้าดูละครเรื่องโปรดที่สู้รบปรบมือกันในเรื่องหัวใจเรื่องรักๆใคร่ๆ ติดกันงอมแงมอย่างกับเป็นไข้หวัด แม้ละครจะดูสนุกพ่อเองก็ดูอยู่เช่นกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้คนต่างเฝ้าดูดละครเรื่องนั้นที่โด่งดังไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องละครมีคำพูดที่ให้ข้อคิดมีบทสอนที่ดีเตือนใจเตือนสติผู้ชม(ทั้งๆที่มีอยู่มากทีเดียว) ตรงกันข้ามพ่อเห็นว่าหลายคนที่เฝ้าติดตามชมติดอยู่กับบทที่ปะทะคารมเชือดเฉือนกันที่สิ่งร้ายๆที่ตัวละครนำมาฟาดฟันกัน และแล้วละครเรื่องนี้ก็ได้เชื่อว่าเป็นละครยอดฮิตผู้คนพบหน้านักแสดงก็จะไม่เรียกชื่อจริงๆของเขาแต่กลับเรียกชื่อตัวละครที่เขารับบทแสดงแทน
มาช่วงนี้พ่อรู้สึกชื่นชอบและชื่นชมผู้จัดและผู้เขียนบทละคร เรื่องราวในละครช่วงนี้มีบทที่ดูแล้วแตกต่างจากช่วงปลายปีที่แล้วค่อนข้างชัดเจนเลยก็ว่าได้ ละครช่วงนี้แม้ยังมีบทร้ายเช่นเดิมร้ายไม่แพ้ละครยอดฮิตก่อนหน้านี้ที่เรื่องร้ายๆในบทร้ายครองใจประชาชนแต่ช่วงนี้บทร้ายๆที่มีกลับไม่สามารถบดบัง“รัศมีความดีงาม”ในบทดี(ไปไหมเนี่ย)ได้เลยอันนี้นึกชมผู้เรียบเรียงบทละครอยู่เช่นกัน หากสังเกตดูเราจะพบบทละครที่พระเอกเป็นพ่อพระรักครอบครัวรักลูกเราพบพระเอกเป็นผู้ชายในฝันมีสติมีเหตุมีผลค่อยๆประคับประครองชีวิตคู่เล่นเอาบทนางเอกที่ไม่แรงดูแรงไปถนัดตาเลยและผู้หญิงต่างก็ปรารถนาได้ผู้ชายในฝันนี้มาเป็นคู่ชีวิตของตน(ผู้ชายในครอบครัวสงสัยจะอิจฉาน่าดูครับ) และเรายังพบพระเอกยอดกตัญญูที่ซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณถึงขั้นมอบชีวิตยังมอบให้ได้
“เขาจะไม่เรียกเจ้าว่าผู้ถูกทิ้ง…เจ้าจะเป็นมงกุฎงามในพระหัตถ์ของพระเจ้า” (เทียบอสย62:3-4)
พูดถึงเรื่องรักใคร่ในหมู่ผู้คนในสังคมปัจจุบันเป็นต้นในหมู่เด็กและเยาวชนดูเหมือนหัวใจพวกเขามีหลายช่วง“หัวใจสับสนและค้นหา” “หัวใจเพ้อละเมอ” “หัวใจหวานฉ่ำ” “หัวใจอมทุกข์” จนถึง“หัวใจสลาย” มีให้เห็นในชีวิตของลูกหลานของเราเรื่องระหว่าง“มิตรกับมิตรเธอกับฉัน” เรื่องระหว่าง“ความรักประสาหนุ่มสาวตัวเองกับตัวเรา” เราสามารถเห็นได้ทุกวี่ทุกวันทุกเวลายิ่งปัจจุบันนี้ในสังคมหน้าเฟส(บุ๊ค) เข้าไปชมวินาทีไหนก็พบเจอวินาทีนั้นเลยทีเดียว
เรื่องราวและคำพูดที่พวกเขาแลกเปลี่ยนกันและกันส่วนใหญ่ก็น่าชื่นชมชวนกันทำความดีมอบคำพูดที่ประเทืองปัญญาและให้กำลังใจกันและกัน แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกันที่มีการหยอกล้อเรื่องรักเรื่องหัวใจเป็นความรักแบบ“หมาหยอกไก่” ในที่นี้จึงไม่ได้จงใจพูดว่าเพศใดคิดและทำกับเพศใด แต่มีเจตนาที่จะสื่อว่าในปัจจุบันทุกเพศทุกวัยแต่มองเรื่อง“หัวใจและความรัก” เป็นเรื่องน่าดึงดูดหอมหวานน่าติดตามและเข้าหา แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีความเข้าใจมั่นใจและวางใจเพียงพอที่จะให้เวลาทำความรู้จักศึกษากันเสียก่อน
“เขาจะไม่เรียกเจ้าว่าผู้ถูกทิ้ง…เจ้าจะเป็นมงกุฎงามในพระหัตถ์ของพระเจ้า” (เทียบอสย62:3-4)
สำหรับพระเป็นเจ้าความรักของพระองค์ไม่ใช่เป็นเรื่องแบบ“หมาหยอกไก่” แต่ความรักของพระองค์เป็นเรื่องจริงจัง“จริงใจไม่ใช่จิงโจ้” ที่กระโดดไปมาตลอดเวลาไม่มีความมั่นคง ความรักของพระองค์เป็นเรื่องของ“การเฝ้าตามดูแล…ไม่ทอดทิ้ง” ความรักของพระองค์เป็นเรื่อง“ประทานให้และให้เปล่าๆฟรีๆ” ความรักของพระองค์เป็นเรื่อง“ประทานให้เพื่อความดีของผู้รับเพื่อเสริมสร้างส่วนที่ดีฟื้นฟูส่วนที่ห่างหายและเยี่ยวยาส่วนที่บกพร่องและเจ็บปวด”
เชิญชวนเรามาร่วมกันภาวนาเตรียมจิตใจและร่วมบูชาขอบพระคุณพ่อเจ้าด้วยจิตใจที่รักและขอบคุณพระองค์ในความรักเมตตารักมั่นคงของพระองค์ และอย่าลืมอย่ามัวทำตัวเองเป็น“หมาหยอกไก่” เป็น“จิงโจ้” แต่พยายามมอบความรักให้คนในครอบครัวมอบความรักให้เพื่อนรอบข้างอย่างจริงใจเช่นพระองค์ครับ