“เคล็ดลับ” ของแม่พระ “ยอมถูกขัดใจและฉีกใจในมหาพรต”
“มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น… แต่ด้วยพระวาจาและวางใจในพระองค์” (เทียบลก4:4)
คิดถึงการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่เคยอ่านเมื่อ 20 กว่าปีก่อนนั้น“อิปโปคุงในเรื่องก้าวแรกสู่สังเวียน” ตัวเอกของเรื่องเป็นเด็กอ่อนแอคนหนึ่งถูกจับไปฝึกฝนการชกมวยและก็รู้สึกชื่นชอบ พ่อชอบคำพูดของผู้ฝึกสอนคำพูดนั้นก็คือ“ชกไปตามสูตรการชกพื้นฐานที่เจ้าฝึกมาเป็นสิบปี จงเชื่อมั่นหากถูกชกล้มลงไปจงลุกขึ้นมาใหม่ทุกครั้งและจงเชื่อมั่นจงชกไปตามที่ฝึกมา… แค่นั้น” จริงๆพี่น้องคำแนะนำนี้ใช้ได้กับเรา เป็นพิเศษในช่วงเตรียมจิตใจในช่วงมหาพรตเพื่อเข้าสู่ความชื่นชมยินดีใน“รหัสธรรมปัสกา” การกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้า
“มหาพรต” เรียกร้องให้เราบำเพ็ญพรตอดอาหารพลีกรรมและกลับใจหลายครั้งเราก็พ่ายแพ้ต่อ“ความรักตนเองมากเกินไป” เราพยายามเดินทางในช่วงเทศกาลมหาพรตแต่ความอ่อนแอตามประสาโลกก็ทำให้เราหกล้มและล้มลงครั้งแล้วครั้งเล่าจงทำดังเช่นคำแนะนำนั้นให้เราลุกขึ้นมาไม่ต้องคิดมากกลับไปชกท่าพื้นฐานชกไปก้าวเดินต่อไปล้มและลุกพยามต่อไปแล้วเราจะชนะใจตัวเราเอง
วันพุธรับเถ้าที่ผ่านมา เราเริ่มต้นการเตรียมจิตใจเพื่อร่วมใน“รหัสธรรมปัสการหัสธรรมความรอดพ้น” เราเริ่มต้น“เทศกาลมหาพรต” ด้วยการเตรียมจิตใจเป็นทุกข์และกลับใจ“การเข้ามาขอรับเถ้าที่ถูกเสก” จึงมีความหมายอย่างแท้จริง (วันนี้หลังมิสซาพี่น้องส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถมาร่วมรับได้ก็จะเข้ามาขอรับในช่วงท้ายของมิสซา)
“มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น… แต่ด้วยพระวาจาและวางใจในพระองค์” (เทียบลก4:4)
เราเริ่มต้นเทศกาลมหาพรตด้วยพระวาจาของพระเจ้าในถ้อยคำของ“ประกาศกโยเอล” “จงฉีกใจของท่านมิใช่ฉีกเสื้อผ้า จงกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านเพราะพระองค์ทรงเมตตาและกรุณา” (ยอล2:12) ในมหาพรตนั้นเรากำลังทำอะไรกัน “อดอาหารอดเนื้อ” ตามสูตรที่เราเคยได้ยินมา แล้วอะไรอยู่ข้างในความหมายของสูตรนี้ล่ะ บางคนตั้งใจอดอาหารอดเนื้อ ตามหลักที่พระศาสนจักรบอกออกไป แต่พอตกเย็นก็ร่วมสังสรรค์กับเพื่อนแล้วก็ดื่มเหล้าดื่มเบียร์เฮฮากันไป บางคนตั้งใจอดเนื้อวัว-หมูและไก่ทุกวันแต่พอสั่งอาหารก็สั่ง“กุ้งแช่น้ำปลา… ปลาเก๋าสามรสฯลฯ” ตกลงกินของราคาแพงกว่าอีก
อะไรคือจิตตารมณ์แท้จริงของ“การจำศีลอดอาหาร– อดเนื้อ” ในช่วงมหาพรตกันแน่ อันที่จริงเราอดสิ่งต่างๆก็เพื่อมีสิ่งที่เหลือเก็บเป็นต้นทรัพย์สินเงินทอง “มหาพรต” จึงมาพร้อมกับ“กระป๋องมหาพรต” มหาพรตจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยการ“ฉีกใจของเรา” อดทนอดกลั้น“ความรู้สึกอยากรู้สึกต้องการ” ของตัวเรา และผลของการอดทนไม่ตามใจตามปากของเราก็มีสิ่งที่เหลือค้างอยู่นั่นก็คือเงินของเรานั่นเอง เราจึงนำเงินของเราไปช่วยเหลือคนขาดแคลนต้องการความช่วยเหลือ
“พระองค์ทรงเป็นแหล่งลี้ภัยของข้าพเจ้า… ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์” (สดด91:2)
“แม่พระ” ก็ได้ทำเหมือนกับที่ประกาศกโยเอลได้เคยพูดสอนชาวอิสราแอลไว้คือให้“ฉีกใจตัดใจของตนเอง” การตัดใจของแม่พระส่งผลที่มีคุณค่ามหาศาลนั่นคือท่อธารอันยิ่งใหญ่ของพระบิดานั่นคือการร่วมการไถ่กู้ขององค์พระบุตรพระเยซูคริสต์เจ้าแม่พระตั้งใจด้วยน้ำใจดีงามว่าจะถวายตนทั้งครบให้กับพระเป็นเจ้าด้วยการถือศีลเป็นพรหมจรรย์จนจบชีวิตแต่แม่พระก็ถูกขัดใจถูกเรียกร้องจากพระเป็นเจ้าให้แต่งานและให้กำเนิดบุตรซ้ำมากไปกว่านั้นบุตรคนเดียวที่ตนรักก็ต้องถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาอีก
แม่พระเจ็บปวดแน่แต่ก็น้อมรับและ“อดใจอดกลั้นยอมถูกขัดใจฉีกใจตนเอง” และผลที่ได้กลับมีคุณค่ามหาศาลคือความรอดพ้นของชาวเราทุกคน พี่น้องถึงเวลาแล้วที่เราจะเข้าใจเข้าให้ถึงจิตตารมณ์แท้จริงของ“มหาพรต” ถึงเวลาแล้วที่เรา“จะอดทนยอมถูกขัดใจฉีกใจตนเอง” และร่วมมือกันรวบรวมผลของการยอมเสียสละของตัวเรานำมาร่วมกันและสร้างสรรค์ให้เกิดพระพรเกิดความรักความรอดพ้นสำหรับเพื่อนพี่น้องของเราที่ยังเจ็บปวดและขัดสน
“พระองค์ทรงเป็นแหล่งลี้ภัยของข้าพเจ้า… ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์” (สดด91:2)