“ค่าของคนอยู่ที่… หัวใจที่ดีงามของตน”
พระองค์จะทรงเปลี่ยนรูปร่างอันต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายอันรุ่งโรจน์ของพระองค์(ฟป. 3:21)
“ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน”เราเคยใช้ข้อความนี้เป็นเรื่องต้นแบบเพื่อสร้างกำลังใจสร้างแรงจูงใจและเป็นต้นเพื่อหล่อหลอมคนให้มีบุคลิกที่เอาจริงเอาจังกับการงานรับผิดชอบหน้าที่ของตนพยายามสร้างงานของตนให้ได้ดีให้ได้แต่ดาบยังไงก็เป็นดาบจะในอดีตหรือปัจจุบันหรือจะมองไปในอนาคตอีกกี่ปีก็ตามดาบก็มีสองด้านอยู่เช่นเดิม
“ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” แม้จะเคยสร้างผู้คนมากมายให้เป็นคนเก่งแกร่งและทระนงอย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งก็เสริมสร้างให้มนุษย์สนใจแต่วัตถุพยามสร้างผลงานจนบางทีก็ลืมนึกถึงหัวใจของคนรอบข้างหัวใจของคนในครอบครัวที่เป็นห่วง จนเมื่อระบบทุนนิยมวัตถุนิยมเงินนิยมเป็นเทพเจ้า แทนที่ผู้คนจะพยายามสร้างผลงานที่ดี พวกเขากับกลายเป็นนักสร้างภาพให้ดูว่าสร้างผลงาน… แต่จริงจริงนั้นกลับเป็นผู้สร้างภาพทำให้ดูดีมีผลงานทั้งที่จริงไม่มีเลยแม้แต่น้อย เราจึงพบว่าการสร้างคนให้ยึดติดกับ“ผลงาน” ก็มีด้านที่มีคมร้ายอยู่ด้วยเช่นกัน
พระองค์จะทรงเปลี่ยนรูปร่างอันต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายอันรุ่งโรจน์ของพระองค์(ฟป. 3:21)
“ค่าของคนอยู่ที่เป็นคนของใคร”ประโยคนี้เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เมื่อคนเริ่มเสื่อมศรัทธากับการอดทนแล้วสร้างความดีงามสร้างผลงานที่ตนเองต้องหมั่นออกแรง เมื่อทนรอไม่ไหวเพื่อนๆเขาแซงและนำหน้าไปหลายช่วงก้าวแล้ว บางคนจึงคิดรีบเร่งไปทางปกติไม่ทันก็ของไปทางลัดกันเลยดีกว่าไหม เราจึงได้ยินคำที่พูดกันคุ้นหูว่า“รวยทางลัด” ไม่ต้องออกแรงมากแต่ได้ผลได้ค่าตอบแทนมหาศาล
“ค่าของคนอยู่ที่เป็นคนของใคร”ประโยคนี้ก็เช่นเดียวกันคือไม่ได้ตอบสนองหัวใจของเราอย่างแท้จริงไม่ได้มอบความสุขที่ถาวรและเป็นความสุขที่แท้จริงให้กับเราแต่อย่างใดเลย ซ้ำร้ายทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มาจากการสร้างภาพเหล่านี้ก็เปรียบเหมือนกับปลายกระบอกปืนที่ถูกเล็งและขึ้นไกปืนจอคอเราไว้ พร้อมเสมอที่จะถูกสั่งให้เหนี่ยวไกและยิงเรา โดยที่เราไม่มีวันรู้เลยว่าจะเป็นเมื่อไรกัน…
“พระอาจารย์ที่นี่เป็นสวรรค์…ที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆ…เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิดหลังหนึ่งสำหรับพระองค์หลังหนึ่งสำหรับโมเสสอีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์” (เทียบลก9:33)
“ค่าของคนอยู่ที่ทุกอย่างก้าวหัวใจของเขาดีงามเพียงใดจิตใจของเขางดงามใกล้เคียงกับพระบิดาเท่าใดแล้ว” พระเยซูเจ้าสอนคำสอนจากพระบิดาให้เราเสมอว่าค่าของคนไม่ได้อยู่แค่ผลของงานเท่านั้นค่าของคนไม่ได้อยู่ที่เป็นคนของใครยิ่งใหญ่เพียงใดเลยแม้แต่น้อยค่าของคนเราตัวเราอยู่ที่หัวใจของเราต่างหากว่าเป็นเช่นไร
หลายคนท้อ และถอยห่างออกมาทุกทีทุกทีถอยห่างจากความรักของพระบิดา หลายคนมองคุณค่าของตนเองว่า“ด้อยค่า” เหลือเกิน จึงรู้สึกอยากอยู่เฉยไม่กล้าแสดงอะไรออกมาเพราะเกรงว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คน หรืออีกด้านหนึ่งก็พยายามสร้างภาพสร้างว่าตนนั้นแกร่งด้วยอาการก้าวร้าวเพื่อให้เป็นที่ยอมรับต่อผู้อื่น วิธีการเหล่านี้ไม่เคยทำให้ตัวเขาเป็นที่ยอมรับต่อผู้อื่นเลยแม้แต่น้อย
“พระอาจารย์ที่นี่เป็นสวรรค์…ที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆ…เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิดหลังหนึ่งสำหรับพระองค์หลังหนึ่งสำหรับโมเสสอีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์” (เทียบลก9:33)
“ค่าของคนอยู่ที่ทุกอย่างก้าวหัวใจของเขาดีงามเพียงใดจิตใจของเขางดงามใกล้เคียงกับพระบิดาเท่าใดแล้ว”ทุกครั้งที่เรามอบจิตใจที่งดงามมอบธารน้ำใจมอบจิตเมตตาโดยไม่รู้ตัว เราไม่รู้ตัวเลยว่า“คุณค่าในชีวิตของเรา” ถูกถีบตัวให้สูงปรี๊ด!! ขึ้นอย่างมากมาย สันติสุขจึงเกิดขึ้นก่อตัวขึ้นเป็นสวรรค์ณแผ่นดิน สวรรค์จึงเป็นบริเวณที่ลูกๆของพระบิดาแบ่งปันความรักปันสันติสุขแก่กันและกันมหาพรตนี้เรามาร่วมสร้างสวรรค์กับพระบิดากันเถิดครับ.