“ใครบาป…ใครบุญ” …สำคัญหรือ???
“ชาวกาลิลีซึ่งถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่เขากำลังถวายเครื่องบูชา…ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือจึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้” (เทียบลก13:1-2)
หลายครั้งพี่น้อง… พ่อจะถูกนำไปสู่การตัดสินใจโดยที่ไม่ปรารถนาเลยที่จะต้องตัดสิน พี่น้องคงเคยได้พบเจอกับเหตุการณ์ทำนองนี้มาบ้างแล้ว พ่อเชื่อว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นครับ ครั้งหนึ่งพ่อถูกถามว่า“พ่อเลือกมาเลยดีกว่าว่าใครผิดใครถูกกันแน่…?”
พี่น้องหลายครั้งเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มันไม่ได้ถูกทำให้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุจากใครผิดใครถูก หลายครั้งเราอธิบายกันต้องนานสองนานแต่ก็ไม่สามารถทำให้เข้าใจกันได้ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลายครั้งมาจากความรู้สึกที่แตกต่างกันในเรื่องเดียวกันเป็นความขัดแย้งกันทางความคิดและความสัมพันธ์ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ใครทำผิดหรือทำถูก
“ชาวกาลิลีซึ่งถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่เขากำลังถวายเครื่องบูชา…ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือจึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้” (เทียบลก13:1-2)
“ใครบาปใครบุญ…ใครผิดใครถูกกัน” ในโลกปัจจุบันที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ส่วนใหญ่จะใช้วิธีดูที่ผลที่เขาได้ทำว่าสำเร็จหรือไม่มากน้อยแค่ไหนหรือดูจากเชื่อเสียงแต่เก่าก่อนทั้งที่บรรพบุรุษของเขาหรือตัวของเขาเองที่ได้สั่งสมมาหรือยิ่งร้ายไปกว่านั้นก็ดูกันที่ฐานะทรัพย์สินเงินทองข้าวของเครื่องใช้เครื่องประดับ
เหมือนอย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพ่อนำคำนิยมมายกแบ่งปันกันเข้าทำนองที่ว่า“ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” หรือ“ค่าของคนอยู่ที่เป็นคนของใคร” เรื่องราวของชาวกาลิลีที่ถูกจับฆ่าขณะที่กำลังถวายเครื่องบูชาแด่พระเป็นเจ้าสร้างความสับสนให้กับสังคมของชาวยิวในสมัยของพระเยซูเจ้าพอสมควร
มีหลายคนสับสนไม่รู้ว่าสิ่งใดถูกผิดหรือบาปบุญกันแน่ เมื่อครอบครัวหนึ่งนั่งรถยนต์ส่วนตัวไปกันทั้งครอบครัวเพื่อไปทำบุญทั้งให้กับบรรพบุรุษและสมาชิกในครอบครัว แต่พอขากลับ…กลับจบชีวิตกันทั้งครอบครัวด้วยอุบัติเหตุรถชนกับรถพ่วง อันนี้หลายคนสับสน… “ทำไมคนเราทำบุญแต่กลับได้รับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความดีที่ทำกัน…ไม่เข้าใจ”
“เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิตทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน”
(ลก13:5)
คำตอบของพระเยซูเจ้าบอกกับเราชัดเจนในสัปดาห์นี้ว่า “เราต้องปรับเปลี่ยนชีวิตของเรา” มิเช่นนั้นเราจะพินาศ… ใครจะพินาศหรือไม่ชาวกาลิลีจะพินาศเป็นคนบาปหรือไม่ไม่สำคัญ เรื่องที่สำคัญที่สุดณเวลานี้… คือเรากำลังเป็นคนบาปหรือไม่ต่างหาก หากเป็นแล้วไม่ปรับเปลี่ยนชีวิตของเราเองเราจะพินาศแน่แน่ พี่น้องได้ยินเช่นนี้จะสนใจกันทำไมละครับว่าคนอื่นใครจะเป็นคนดีที่พระชื่นชมอวยพรหรือเป็นคนบาปที่พระจะต้องตัดสินลงโทษให้พินาศไป
ช่วงเวลา“มหาพรตน่าจะเป็นช่วงเวลาพิเศษจริงๆที่เราจะมานั่งทบทวนนั่งคิดจริงจังนั่งจดเพื่อกันลืม… ว่าเรานั้นเป็นคนบาปที่พร้อมจะพินาศหรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้นจริงเราจะทำอะไรบ้างหนึ่งสองสามสี่… เพื่อเราจะได้ปรับเปลี่ยนชีวิตของตัวเราเองให้เหมาะสมและได้รับความรอดพ้น
“เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิตทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน”
(ลก13:5)
เหตุการณ์ตัวอย่างของเด็กน้อย ที่โดนวัยรุ่นกว่า40 ชีวิตรุมทำร้ายจน“มือจะกุดนิ้วจะขาด” หมดอยู่แล้วนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรา ณเวลานี้พ่อไม่ถามแล้วว่าใครผิด… พ่อคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะพอแล้วกับการตามหาว่า“ใครผิด” ให้เป็นเรื่องตามกฎหมายไป ส่วนที่พ่อสนใจและอยากประกาศให้โลกทั้งใบนี้สนใจและชื่นชมก็คือ… คำที่เด็กคนนี้บอกผ่านทางสื่อต่างๆที่ให้อภัยกับความชั่วร้ายร้ายกาจของคนที่ทำร้ายเขา
พี่น้อง… ถึงเวลาแล้วที่เราควรหันมาช่วยกันทำความดีหันมาช่วยกันให้อภัยกัน มากกว่าจะหวังแต่จะเอาคืนหวังแต่จะล้างแค้น… มาเถิดครับเรามาร่วมมือกัน“แก้ไขชีวิตของเราและสังคม มิใช่แก้แค้นกันโกรธกันหรือแง่งอนใส่กัน” ครับ.