ขอโทษ…ขอโทษ…ผมขอโทษพระองค์.
“มาเถิดเราจงขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า… แล้วพระองค์จะทรงสอนวิถีทางของพระองค์ให้เรา เราจะได้เดินตามมรรคาของพระองค์.”(เทียบอสย2: 3)
สัปดาห์นี้ เราเริ่มเดินทางในปฏิทินปีพิธีกรรมในสัปดาห์ที่หนึ่งเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสต์เจ้า ก่อนที่เราจะเข้าถึงและร่วมในวันสมโภชพระคริสตสมภพ(พระกุมารบังเกิด-คริสต์มาส) เวลาช่างเดินผ่านมาและผ่านไปไว้จริงๆครับ
ห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อันที่จริงหลายสัปดาห์กันเลยทีเดียว กระแสสังคมตอนนี้สับสนกันจริงๆครับพี่น้อง สวดภาวนาทบทวนไตร่ตรองกันดีๆ อยากขอให้เราทบทวนไตร่ตรองอยู่พื้นฐานความรักของพระที่พระคริสต์เจ้านำมาเผยแสดงให้เรา เป็นต้นในพระวาจาพระคัมภีร์ จริงๆนะครับสำคัญมากๆ
“เราจงละทิ้งกิจการของความมืดมนเสียแล้วสวมเกราะของความสว่าง… ดำเนินชีวิตโดยสวมพระเยซูคริสต์เป็นอาภรณ์ ไม่ทำตามความต้องการของเนื้อหนัง” (รม13: 12,14)
มีแต่คนพูด”ขอค้าน” “ขอต้าน” หรือ”ขอให้…ไป” (คำว่าไปก็มักจะออกเสียงค่อนข้างหนักหนักไปทางข่มขู่ด้วยซ้ำ) หรือจะเป็น”ขอคืน” (ที่จริงน่าจะเป็นขอ…เอา…คืน เสียมากกว่าด้วย) แต่สัปดาห์นี้พ่ออยากนำเสนอคำว่า”ขอโทษ…ขอโทษ…ขอโทษพระองค์”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่น้องบางท่านหรือหลายท่านอาจเข้าไปร่วมขบวนความคิดต่างๆในที่ใดที่หนึ่ง ส่วนพ่อพ่อเองไปร่วมเข้าเงียบเป็นเวลา5 วันพร้อมกับบรรดาพระสงฆ์ทั้งหมด12 ท่าน ที่เข้าร่วมกิจกรรม”พักภารกิจสงฆ์ที่วัดและมาร่วมฟื้นฟูชีวิตสงฆ์ร่วมกัน” ที่พ่อกำลังเข้าร่วมอยู่
“ในสมัยของโนอาห์ก่อนน้ำวินาศ ผู้คนกินดื่มเที่ยวเล่น ไม่มีใครนึกระแวงว่าจะมีน้ำวินาศทำลายโลกเช่นกันท่านจงตื่นเฝ้าระวังเถิด เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านไม่ได้คาดหมาย“(เทียบมธ24:37-39,44)
วันหนึ่ง…ระหว่างกำลังเดินสวดสายประคำและพร้อมกันนั้นก็รำพึงไตร่ตรองถึงข้อรำพึงที่ว่า“พระคริสตเจ้าทรงถูกเฆี่ยน“มันสว่างวาบเข้ามาในชีวิตพ่อว่า“พระเยซูเจ้าพระองค์เป็นเพื่อนเราพระองค์ทำเพื่อเรา เวลานี้พระองค์กำลังถูกเฆี่ยนกำลังรับทรมานแสนสาหัสกำลังเจ็บปวดและหมดหวัง ตัวฉัน(พ่อเอง) เป็นเพื่อนพระองค์ประสาอะไร เห็นเพื่อนเจ็บ… สิ่งที่ดีที่สุดคือรับความเจ็บแทน หรือจะแบ่งเบาความเจ็บปวดมาบ้าง หรือเลวร้ายที่สุดเพื่อนก็น่าจะอยู่ใกล้ๆอยู่เคียงข้างเพื่อนจนกว่าเพื่อนจะสิ้นใจไป…”
“น่าเศร้าใจ… ชีวิตจริงของเรากลับทิ้งพระองค์ทิ้งพระองค์ทิ้งเพื่อนได้ลงคอ…”ที่สุด…ในความรู้สึกผิดรู้สึกมากได้แต่พูดคำคำนี้กับพระองค์ด้วยหวังและวางใจในพระองค์(เมื่อตอนเดินสวดนั้นเอง) ว่า“ขอโทษ…ขอโทษ…ผมขอโทษพระองค์”