สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
ถ้าเราต้องบรรยายว่าพระเยซูคริสตเจ้าหมายถึงอะไรสำหรับคริสตชน เราคงจะทำได้ด้วยการใช้คำที่คุ้นเคยกับที่ใช้กับพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็น “ผู้นำ” ของประเทศชาติไม่ว่าจะเป็นฐานะทรงเป็น “เจ้าแผ่นดิน” “จอมทัพ” หรือ “องค์พระประมุข” ในพระคัมภีร์บรรยายถึงพระเยซูเจ้าในฐานะที่เป็นกษัตริย์เป็นบุคคลเดียวกันในพระคัมภีร์ ชาวฮีบรูรู้เรื่องของกษัตริย์ซาโลมอน การอุทิศตนแบบวีรชนและความกล้าหาญของ “บิดาผู้ก่อตั้ง” คือกษัตริย์ดาวิด และความยิ่งใหญ่และอำนาจของกษัตริย์แห่งอียิปต์และบาบิโลน ดังนั้นพวกเขาจึงได้ใช้ภาพพจน์ที่คุ้นเคยเหล่านี้เพื่อบรรยายถึงความสัมพันธ์ของพระเยซูเจ้ากับประชากร “ที่พระองค์ได้ทรงพลีชีวิตของพระองค์เพื่อพวกเรา” (ฮบ 13:12)
นักบุญเปาโลสอนว่า การปกครองของพระเยซูเจ้าในฐานะกษัตริย์ที่เริ่มขึ้นพร้อมกับการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์จะคงอยู่ต่อไปจนถึงการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระองค์ในวันนั้น พระองค์จะทรงมอบอาณาจักรแด่พระบิดา เวลานี้พระเจ้าทรงปฏิบัติต่อโลก โดยผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้าพระเจ้าของเราในวาระสุดท้ายของโลกความสัมพันธ์โดยตรง ในระหว่างนี้อาณาจักรของพระเยซูเจ้ากำลังอยู่ในระหว่างทำสงครามกับความชั่ว พระคริสตเจ้า “จะต้องครองราชย์จนกว่าจะทรงปราบศัตรูทั้งสิ้นของพระองค์ให้อยู่ใต้พระบาท” (1 คร 15:25)
การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าในความรุ่งโรจน์นั้น พระเยซูเจ้าผู้ทรงได้รับการแนะนำว่าทรงเป็นกษัตริย์ และผู้พิพากษา ทรงแสดงพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ด้อยโอกาส และผู้ถูกเหยียบย่ำของสังคม และกฎหมายสูงสุดของความรักจะเป็นมาตรการที่ใช้วัดบาปบุญคุณโทษในวันพิพากษา การพิพากษาครั้งสุดท้ายจะไม่เป็นการจบสิ้นแต่เป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับผู้ที่ได้ติดตามการเป็นผู้นำของพระเยซูเจ้า และฟังพระบัญชาเรื่องบทบัญญัติแห่งความรักของพระองค์ “เมื่อมนุษย์จะเสด็จมา และฟังพระบัญชาเรื่องบทบัญญัติแห่งความรักของพระองค์ “เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาพร้อมด้วยมหิธานุภาพ มีขบวนนิกรเทวดาห้อมล้อม พระองค์จะประทับเหนือพระบัลลังก์อันรุ่งโรจน์ บรรดาประชาชาติจะมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์ แล้วพระองค์ก็จะทรงแบ่งพวกเขาออกเป็นสองพวก ดังคนเลี้ยงแกะแยะแกะออกจากแพะ ให้แกะอยู่เบื้องขวา ส่วนแพะอยู่เบื้องซ้าย” (มธ 25:31-32)
บทภาวนา
“ข้าแต่พระบิดาเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ สถิตนิรันดร พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ พระองค์ทรงเจิมพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรแต่องค์เดียวให้เป็นสงฆ์นิรันดรและเป็นกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล องค์พระบุตรได้ทรงถวายพระชนม์บนพระแท่น คือไม้กางเขนเป็นบูชาบริสุทธิ์ นำศานติเป็นกิจกอบกู้มนุษยชาติในฐานะที่ทรงเป็นกษัตริย์ พระองค์ทรงรวบรวมสิ่งสร้างทั้งหลายไว้ใต้อำนาจ นำขึ้นทูลเกล้าถวายแด่พระองค์ ผู้เป็นพระบิดาทรงสรรพานุภาพซึ่งพระอาณาจักรสากลดำรงอยู่นิรันดร อาณาจักรที่ประสาทความจริงและชีวิต อาณาจักรที่ประสาทความศักดิ์สิทธิ์และพระหรรษทาน อาณาจักรแห่งความยุติธรรม ความรักและศานติ”