สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง2 ก.พ. 2014
ไม่กี่ปีมานี้เราจะได้ยินสำนวนไทย-ภาษาอังกฤษกันจนคุ้นเคยนั่นคือคำว่า“วินวิน”(Win Win) เวลาพูดหรือฟังสามารถเข้าใจได้ทันทีว่ามีความหมายอย่างไรส่วนใหญ่มักจะใช้กับการเจรจาต่อรองกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่คู่เจรจามีความคิดเห็นต่างกันและจำเป็นต้องหาข้อสรุปร่วมกัน…
“..ซึ่งกันและกัน”น่าจะเป็นคำแปลที่ผมคิดว่าตรงประเด็นมากที่สุดความหมายของซึ่งกันและกันมีความหมายคล้ายๆกับ“ถ้อยทีถ้อยอาศัย”คือไม่มีใครเสียหรือได้อยู่ฝ่ายเดียวแต่ทั้งสองฝ่ายต้องเสียและได้ด้วยกันเช่นคำที่บอกว่า“จงรักซึ่งกันและกัน” หมายถึงให้ทั้งสองฝ่ายรักกันมิใช่อยากให้คนอื่นรักและทำดีกับตนเองแต่ตัวเองไม่คิดที่จะรักและทำดีกับคนอื่นเลยอย่างนี้เขาเรียกว่า“เห็นแก่ตัว”การที่จะรักใครได้นั้นมันจะต้องออกจากตัวเองคือต้องรู้จักให้หมายถึงการให้จิตใจกับคนนั้นหลายครั้งจึงต้องออกแรงรู้จักบังคับตนเองตัดใจให้อภัยยอมรับข้อบกพร่องของเขาด้วยจึงมีคำพูดที่ได้ยินกันเสมอว่า“..จงรักเขาอย่างที่เขาเป็นมิใช่จะรักเขาได้จะต้องให้เขาเป็นอย่างที่เราต้องการ..”
ชีวิตของเราในปัจจุบันเราจะพบว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งโกรธเกลียดกันอยู่ในทุกกลุ่มทุกองค์กรทุกสถาบันไม่เว้นแม้กระทั่งในบ้านซึ่งมีสมาชิกอยู่ด้วยกันไม่กี่คนสาเหตุก็เพราะ“..ซึ่งกันและกัน..” นั้นมันน้อยเกินไปคือไม่รู้จักถ้อยทีถ้อยอาศัยต่างคนต่างยึดมั่นถือมั่นในตนเองเอาแต่ใจตนเองเช่นพ่อแม่อยากให้ลูกของตนเป็นอย่างนี้เป็นอย่างนั้นตั้งธงให้ลูกเสร็จว่าจะต้องเป็นไปตามที่พ่อแม่ต้องการจนบางครั้งลืมนึกไปว่าลูกของตนเป็น“มนุษย์” ที่มีจิตใจมีความรู้สึกนึกคิดและความเป็นตัวเองของเขาอยู่ด้วยหนที่สุดก็เลยเป็น“กดดัน”ลูกจนเกิดความเครียดขาดความสุขและไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิตนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งครอบครัวไปเลย… มิหนำซ้ำเมื่อไม่ได้ดังใจหันมาดุด่าตำหนิลูกยิ่งทำให้หนักลงไปอีก
โอกาสตรุษจีนปีนี้จึงขอเชิญชวนท่านทั้งหลายหันมาสำรวจตรวจดูชีวิตของตนเองว่าเราได้พยายามที่จะมีชีวิตอยู่กับเพื่อนพี่น้องรอบข้างของเราด้วยหลัก“ซึ่งกันและกัน”มากน้อยแค่ไหน… และสำคัญอีกประเด็นหนึ่ง“ซึ่งกันและกัน”นี้จะต้องไม่ใช่การกระทำผิดนะครับเพราะฉะนั้นแล้วจะกลายเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสังคม… สวัสดีครับ.