“จิตตารมย์ ที่ถูกซ่อนอยู่ใน มหาพรต”
“พระเจ้าทรงเอาฝุ่นจากพื้นดิน มาปั้นมนุษย์และทรงเป่าลมแห่งชีวิตเข้าในจมูกของเขา มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต”(ปฐก 2:7)
เมื่อลมหนาวหมดลง ความสุขสนุกสนานช่วงเทศกาลพระคริสตสมภพ สวัสดีปีใหม่ ส่งต่อถึงตรุษจีน ยันจนถึงเทศกาลแห่งความรักความจริงใจและการให้ ให้ชีวิตหมดและจบลง ลมร้อนพัดผ่านเข้ามาแทนที่ ไม่รู้ว่าพี่น้องเกษตรกรชาวนาได้รับสิ่งที่เป็นธรรมไปมากน้อยเท่าใดแล้ว แต่ที่แน่ๆคือ ลมร้อนและแล้งแห้งมาเยือนพี่น้องและเราทุกคนกันแล้ว
พร้อมๆกับลมร้อน ความร้อนแล้งร้อนแรง และความขัดแย้ง พี่น้องคริสตชนเราก็มี “เทศกาลมหาพรต” มาเยือนเช่นกันกับทุกครั้งทุกปี มหาพรต 40วัน เริ่มต้นด้วย “วันพุธรับเถ้า” ที่ผ่านมา เรารับการโรยเถ้าพร้อมกับคำตักเตือนใจที่ว่า “จงกลับใจ (ใช้โทษบาป) และเชื่อพระวรสารเถิด” และพร้อมกับกิจกรรมในการสำนึกผิดและใช้โทษบาป ทั้ง “ภาวนา” เป็นพิเศษ เช่น ภาวนาด้วยกิจกรรม เดินรูป14ภาค ทั้ง “ให้ทาน” และการ “พลีกรรม” เช่นที่พระศาสนจักรเชิญชวนให้เรา “อดอาหาร และอดเนื้อ”
“มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น แต่ดำรงชีวิตด้วยพระวาทุกคำที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า”(มธ 4:4)
พี่น้องส่วนหนึ่งมักจะร่ำร้องทั้งในใจและออกเสียงว่า “ถึงเวลาแล้ว ฉันต้องอดอาหาร โอโฮ หิวแย่เลย ต้องวางแผนแล้วว่าจะอดเมื้อไหนดี… อดเนื้อหรือ แล้วฉันจะอยู่ได้งัยล่ะนี่ไม่ได้กินเนื้อย่างเนื้อสเต็ก อดกินหมูกระทะเลยตั้งเดือนครึ่งแน่ะ” พี่น้องที่รัก เรากำลังคิดถึงช่วงมหาพรตเพียงแค่หวังให้สอบผ่านกันเท่านั้นหรือ?
มีน้องนักเรียนคนหนึ่ง ได้ระบายความหนักใจไว้ว่า “ไม่รู้ว่าจะสอบผ่านหรือเปล่าเทอมนี้ ตอนเรียนก็ไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย แล้วนี่…ครูก็ออกข้อสอบเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นตรงกับที่สอนเลย… เทอมนี้สอบผ่านก็โอเคดีใจแล้ว สอบผ่านก็ถือว่ากำไรแล้ว” พี่น้องที่เป็นครู เป็นพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ เราพอใจกับคะแนนที่ลูกหลานของเราสู้กับการสอบเพียงสนใจให้ได้แค่ “สอบผ่าน” ได้คะแนน 50เปอร์เซ็นต์ ได้เกรดเฉลี่ยประจำเทอม ประจำปีที่เกรด 1.00ประมาณนี้จริงหรือครับ
“ยังมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น”(มธ 4:10)
ช่วงเวลา สี่สิบวันในเทศกาลมหาพรต จึงเป็นช่วงเวลาที่เรามานึกย้อน มานึกทบทวนดูความรักของพระเป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงสร้างเรามา ทรงระบายลมปราณมอบชีวิตให้กับเราแต่ละคน จึงน่าจะเป็นช่วงที่เราขอบพระคุณพระองค์ ตอบแทนความรักของพระองค์ ด้วยการทำกิจฯในช่วงมหาพรตด้วยความเต็มใจ ใส่ใจและจริงใจ
ช่วงเวลา สี่สิบวันในเทศกาลมหาพรต จึงเป็นช่วงเวลาที่เราหันมาใส่ใจกับการรำพึงภาวนา อ่านพระคัมภีร์ ฟังพระวาจาของพระองค์ ด้วยเราจะได้จัดเวลาและมีเวลาอยู่กับพระองค์เป็นพิเศษ หลังจากที่เราทิ้งพระองค์มาเสียนาน จึงเป็นช่วงเวลาที่เราอดใจ อดกลั้น อดออม ไม่ว่าจะอดเนื้อหรืออดอาหาร เพื่อเมื่อเราลดทอนลง เราจะมีเหลือไม่ว่าจะเหลือออกมาเป็นเวลา เป็นอาหารสิ่งของ หรือเป็นทรัพย์เงินทอง และเราจะนำทุกอย่างที่เหลือ นำไปมอบและแบ่งปันให้กับพี่น้องที่ยากไร้และต้องการมากกว่าคิดถึงตัวเราที่สุขสบายดี
นี่แหละจิตตารมย์ที่ถูกซ่อนอยู่ใน “มหาพรต” ทั้งสี่สิบวัน วันนี้เป็นวันแรกวันที่สองสามสี่แล้วของมหาพรตนับจากวันพุธรับเถ้าที่ผ่านมา เรามาร่วมกันเดินทางในช่วงมหาพรตนี้ เริ่มกันเสียแต่วันแรกๆกันเถิด อย่ารอช้าเลย.