องค์สถาปนิกผู้สร้างสวรรค์ ณ แผ่นดิน
การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้าเป็นการปิดฉากภารกิจของพระองค์ในโลกนี้ และเป็นการส่งไม้ต่อ ให้บรรดาอัครสาวก สานุศิษย์ และพวกเราทุกคนได้สานต่อภารกิจของพระองค์ในโลก และภารกิจที่เราจะต้องสานต่อจากพระเยซูเจ้าคือการ ร่วมกันสร้างสวรรค์ ณ แผ่นดิน
ทำไมต้องสร้างสวรรค์ ณ แผ่นดิน? เพราะสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินเดิมได้ถูกทำลายโดยฝีมือของมนุษย์ ดังนั้น เป็นมนุษย์เองที่จะต้องรับผิดชอบ ในการฟื้นฟูและสร้างสวรรค์ ณ แผ่นดินขึ้นใหม่
สวนสวรรค์ ณ แผ่นดินสวนเดิม ที่พระเป็นเจ้ามอบให้แก่มนุษย์ ได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือปฐมกาลบทที่ 2 ข้อที่ 4 ดังนี้
“ลำดับการเนรมิตสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินมีดังนี้ ในวันที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างแผ่นดินและฟ้าสวรรค์”
และในบทที่ 2 ข้อ 8 ได้ระบุชื่อของสวนนั้นไว้อย่างชัดเจน “พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงปลูกสวนแห่งหนึ่งไว้ในเอเดนทางทิศตะวันออก และทรงกำหนดให้มนุษย์ที่พระองค์ทรงปั้นอยู่ที่นั่น”
แต่ต่อมาสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน แห่งนี้ถูกทำลายโดยน้ำมือของมนุษย์ด้วยความไม่นบนอบเชื่อฟัง
ใครอยากทราบว่าสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินแห่งนั้นเป็นสถานที่มีความสุข และเป็นแหล่งแห่งความสมบูรณ์พูนสุขอย่างไร เราหาอ่านได้จากหนังสือปฐมกาลบทที่ 2
นอกนั้นสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินแห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของ รูปแบบของครอบครัวที่มีความสุข
แต่เมื่อมนุษย์เริ่มต้นไม่เชื่อฟังพระเป็นเจ้า เริ่มต้นขัดขืนคำสั่งของพระองค์ สวนสวรรค์ ณ แผ่นดินก็เริ่มต้นแปรสภาพกลายเป็นนรก ณ แผ่นดินนับตั้งแต่วันนั้น
สภาพทางกายภาพอันอุดมสมบูรณ์ของสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินเปลี่ยนไป เกิดความแห้งแล้ง แผ่นดินแตกระแหง
สภาพครอบครัวแตกแยก อาดัมกล่าวหานางเอวาว่าเป็นต้นเหตุของการขัดขืนคำสั่ง และมิหนำซ้ำยังกล่าวหาพระเป็นเจ้าด้วย “หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กับข้าพระองค์ เธอส่งผลจากต้นไม้นั้นให้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน” (ปฐมกาล 3:12) มนุษย์ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ผิด แต่ชอบโยนความผิดไปให้คนอื่น
จากนั้น พี่ฆ่าน้อง
บาปและความชั่วเริ่มพอกพูนทวีขึ้นในโลกจนมนุษย์ต้องเผชิญกับน้ำวินาศ หรือ น้ำล้างโลก
แม้มนุษย์จะถูกล้างไปจนเกือบหมดโลกแล้วแต่ บาปและความไม่เชื่อฟัง ก็ยังไม่หมดไปจากโลกและ แม้พระเจ้าจะทรงมีเมตตาส่งพระบุตรมาช่วยเหลือเพื่อให้เกิดการแก้ไขสภาพ แต่มนุษย์ผู้โหดเหี้ยมก็จับพระผู้เสด็จมาช่วยเหลือนั้นฆ่าเสีย
สวรรค์ ณ แผ่นดิน ดูเหมือนจะเริ่มต้นเป็นรูปแบบให้เราเห็น ณ หมู่บ้านยากจน เล็กๆที่เมืองนาซาเร็ธ ในช่วงเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ที่นั้นตลอดระยะเวลา 30 ปี ของพระชนม์ชีพเร้นลับของพระองค์
หมู่บ้านนาซาเร็ธที่ยากจน และเต็มไปด้วยคนจนแต่ทุกคนมีความสุข เพราะมีพระเยซูเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเขาพระองค์ทรงสอนและให้คำแนะนำดีๆแก่พวกเขา ทรงให้กำลังใจให้พวกเขารู้จักต่อสู้กับชีวิตที่ยากจนด้วยความอดทน พระองค์ทรงเป็นกำลังใจให้แก่ทุกคนในทุกเรื่อง และสอนให้ทุกคนเป็นกำลังใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตลอด 30 ปี หมู่บ้านนาซาเร็ธไม่ได้ร่ำรวยขึ้น ชาวบ้านก็ยังยากจนเหมือนเดิม แต่ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนถึงวันที่พระเยซูเจ้าออกเทศนาสั่งสอนประกาศข่าวดี แต่พระเยซูเจ้าก็เวียนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดอยู่เป็นระยะๆ
อาจจะมีคนถามว่าทำไม พระเยซูเจ้าจึงไม่ทรงทำอัศจรรย์ช่วยชาวบ้านให้รวยขึ้น? นั่นเป็นคำถามที่โง่เง่าแบบสุดๆ และแฝงไว้ด้วยความรู้สึกนึกคิดแบบโลก ซึ่งไม่ใช่วิถีทางของพระ
พระเยซูเจ้าอยู่ที่หมู่บ้านนาซาเร็ธ ทรงเชื่อฟังพระเป็นเจ้า ทรงเชื่อฟังบิดามารดา ทรงเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ของหมู่บ้าน แต่ที่สำคัญสุดคือ ทรงเชื่อฟังพระจิต ที่ประทับอยู่กับพระองค์ตลอดเวลานับตั้งแต่พระองค์เกิด เริ่มต้นทำงาน และสุดท้ายในวันที่พระองค์คืนพระวิญญาณแด่พระบิดา
พระจิตเจ้าทรงนำทางชีวิตของพระเยซูเจ้าอยู่ตลอดเวลา แม้พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า แต่เมื่อทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์พระองค์ก็ต้องรู้จัก นบนอบเชื่อฟังพระจิตเจ้า และชีวิตของพระองค์ก็สร้างให้เกิดสวรรค์ ณ แผ่นดิน ตลอดระยะเวลา 33 ปี ของการดำรงพระชนม์ชีพอยู่ในโลก
ความนบนอบเชื่อฟังเสียงของพระจิตเจ้าสร้างให้เกิดสวรรค์ ณ แผ่นดิน
พระจิตเจ้าคอยสอนให้เรารู้จักปฏิบัติตามพระประสงค์เหมือนกับที่พระองค์ทรงเคยสอนพระเยซูเจ้า
บทข้าแต่พระบิดาที่พระเยซูเจ้าทรงสอนสานุศิษย์ และพวกเราให้สวด แฝงไว้ซึ่งเจตนา และความหวัง ว่าสักวันหนึ่ง พวกเราจะรู้จักทำตามพระประสงค์ของพระบิดา ผู้ประทับอยู่สวรรค์ และพระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้สอนให้เรารู้จักพระประสงค์นั้น ผ่านทางแบบอย่างชีวิต และคำสอนที่พระองค์ได้ให้ไว้ และเมื่อเราทุกคนทำตามนั้น สวรรค์ก็จะเกิดขึ้นในโลก พระอาณาจักรของพระเจ้าก็จะเกิดขึ้นในโลกอย่างแท้จริง ณ เวลานั้นโลกจะถูกเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสวรรค์ ณ แผ่นดิน แต่เงื่อนไขมีเพียงอย่างเดียวคือ เราทุกคนต้องรู้จักนบนอบเชื่อฟังองค์สถาปนิก คือ องค์พระจิตเจ้าที่คอยบอกเราจากภายในจิตวิญญาณ บอกให้เรารู้จักฝืนใจ หรือ ตัดใจ(†)ที่จะทำความดีที่เราไม่อยากทำและรู้จักฝืนใจหรือตัดใจ † ที่จะไม่ทำความชั่วที่เราอยากทำ ทำได้อย่างนี้สวรรค์น้อยๆก็จะเกิดขึ้นในโลก …สวัสดี..