สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง 29 มิ.ย. 2014
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
ก. ทรงถูกประจญเรื่องการกินการดื่มอาหารเป็นปัจจัยสำคัญของการมีชีวิตอยู่เรียกว่าความหิวเป็นความทรมานที่มนุษย์จะทนไม่ได้ดังนั้นเมื่อปีศาจเห็นว่าพระองค์ทรงอดอาหารมานานต้องหิวและต้องการอย่างยิ่งที่จะรับประทานอาหารดังนั้นสิ่งแรกที่ปีศาจประจญพระองค์ก็คือขอให้พระองค์เสกก้อนหินให้เป็นขนมปังเพราะมันรู้ว่าคนที่เต็มไปด้วยความหิวเมื่อเห็นขนมปังต้องรับประทานแน่ๆดูเหมือนว่าปีศาจต้องการจะท้าพระองค์ว่าถ้าแน่จริงก็กระทำให้หินเป็นขนมปังซิ…
แต่ที่สุดพระองค์ทรงตอบปีศาจด้วยวิธีการเจริญชีวิตของมนุษย์ที่แท้จริงคือ“มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้นแต่ดำรงชีวิตด้วยพระวาจาทุกคำ…”
ข. ทรงถูกประจญในเรื่องของความเก่งปีศาจพาพระองค์ไปยังพระวิหารและท้าให้พระองค์กระโดดลงไปข้างล่างเพราะถ้าพระองค์เป็นพระเจ้าจะมีเทวดามารับไว้ไม่ให้เป็นอันตรายถ้าพระองค์กระโดดลงไปก็เท่ากับว่าเชื่อคำของปีศาจอยากให้ใครๆเห็นว่าพระองค์ไม่ธรรมดาผู้คนก็จะชื่นชมยกย่องเหมือนกับว่าพระองค์ต้องการคำชมยกย่องเหล่านั้นซึ่งพระองค์ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องทำเช่นนั้นเลยและที่สุดพระองค์ทรงบอกกับปีศาจตรงไปตรงมาว่า“อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านเลย”
ค. ปีศาจยังไม่ละความพยายามพาพระองค์ไปยังภูเขาสูงชี้ให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักรรุ่งเรืองต่างๆของโลกและบอกให้พระองค์กราบนมัสการมันและจะได้ทุกสิ่งที่เห็น… ปีศาจมันรู้ดีว่ามนุษย์อ่อนแอมีความโลภทั้งทรัพย์สินเงินทองความสะดวกสบาย…ในที่สุดพระองค์ทรงไล่ปีศาจไปให้พ้นและกล่าวถึงพระคัมภีร์ที่บอกให้กราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียว…
สิ่งที่น่าสังเกตคือพระองค์ทรงอ้างถึงพระคัมภีร์ทุกครั้งเมื่อปีศาจประจญพระองค์เป็นเครื่องยืนยันถึงพลังและอำนาจของพระวาจานั้นยิ่งใหญ่และไม่มีปีศาจตนใดจะเอาชนะได้ดังนั้นการเจริญชีวิตด้วยพระวาจาของพระเป็นเจ้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่คริสตชนจะขาดมิได้
ดังได้บอกไปแล้วว่าปีศาจเลือกประจญพระองค์ในเรื่องความอ่อนแอหรือจุดอ่อนของมนุษย์โดยคิดว่าจะเอาชนะได้ง่ายๆแต่สำหรับพระเยซูพระองค์ทรงเป็นพระเป็นเจ้าด้วยแม้พระองค์จะทรงมีพระธรรมชาติเป็นมนุษย์อยู่ด้วยแต่อาศัยพระธรรมชาติของพระที่พระองค์เป็นอยู่นั้นปีศาจจึงไม่สามารถเอาชนะพระองค์ได้
(ต่อสัปดาห์หน้า… สวัสดีครับ)