สวัสดีครับพบกันอีกครั้งในคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ” ในอาทิตย์ที่4 ของเทศกาลธรรมดาพระวาจาของพระเจ้าในพระวรสารวันนี้เราได้เห็นถึงพระวาจาและกิจการของพระเยซูเจ้าในศาลาธรรมทรงสั่งสอนชาวเมืองคาเปอร์นาอุมอย่างผู้ทรงอำนาจและทำให้ชาวเมืองรู้สึกประหลาดใจเพราะการสอนของพระองค์ทรงอำนาจและไม่เหมือนการสอนทั่วไปของบรรดาธรรมาจารย์ในเวลานั้นด้วยเหตุผลที่ว่าประการแรกพระองค์ทรงสอนจากหัวใจไม่ใช่จากสติปัญญาและคำสอนของพระองค์นั้นมาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระบิดาเจ้าสวรรค์ประการที่สองพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับจิตตารมณ์ไม่ใช่ตัวบทกฎหมายและทรงชี้ให้เห็นถึงคุณค่าเรื่องของ “ความรักและความเอาใจใส่” และประการสุดท้ายคำสอนของพระองค์มีจุดมุ่งหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้ฟังและสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ที่กำลังประสบความยากลำบากคำสอนของพระองค์จึงเติมเต็มชีวิตของพวกเขาจากความหวาดกลัวความเกลียดชังและความว่างเปล่าให้มีชีวิตที่ดีขึ้นทำให้ชีวิตของพวกเขามีคุณค่าและความหมายนอกจากนั้นในตอนท้ายของพระวรสารพระเยซูเจ้ายังได้ทรงแสดงอำนาจของพระองค์ด้วยการขับไล่ผีปีศาจจากชายผู้หนึ่งด้วยคำพูดที่ว่า“จงเงียบออกไปจากชายผู้นี้” (มธ.1:26) และมันก็ออกไปทันที พี่น้องครับพระวาจาของพระเจ้าในอาทิตย์นี้จึงสะท้อนให้เราเห็นถึงพระวาจา และกิจการที่ทรงอำนาจของพระเยซูเจ้าซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ควรมีอิทธิพลต่อความคิดความรู้สึกและจิตใจของเราด้วยเช่นกันโดยเฉพาะพวกเราที่ได้ยินพระวาจาของพระเจ้าในขณะที่เรามาวัดในทุกๆอาทิตย์พระวาจาและคำสอนของพระเยซูเจ้าได้เปลี่ยนแปลงจิตใจของเรามากน้อยแค่ไหน? คำสอนของพระองค์เตือนใจเราเป็นคนที่ดีขึ้นบ้างหรือเปล่าเช่นพระองค์ทรงสอนให้เรารักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองทรงสอนให้เราให้อภัยเขาเจ็ดครั้งเจ็ดสิบหนสอนให้เราซื่อสัตย์แม้แต่ในเรื่องเล็กน้อยและสอนเราให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ฯลฯเราได้ทำตามคำสอนเหล่านี้บ้างหรือเปล่า? […]