ข้อคิดประจำวันอาทิตย์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา ปี Bมก 4: 35-41 …ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้? ……เมื่อพวกอัครสาวกถูกลมพายุโจมตี […]
ข้อคิดประจำวันอาทิตย์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา ปี Bมก 4: 35-41 …ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้? ……เมื่อพวกอัครสาวกถูกลมพายุโจมตี […]
ข้อคิดวันสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า ปี B มก 14: 12-16, 22-25…จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา…นี่เป็นโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อคนจำนวนมาก… […]
ข้อคิดสมโภชพระตรีเอกภาพ ปี B มธ 28:16-20…ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขา เดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต… […]
ข้อคิดวันสมโภชพระจิตเจ้า ปี B กจ 2:1-11…ศิษย์ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม และเริ่มพูดภาษาอื่นๆตามที่พระจิตเจ้าประทานให้พูด…และประชาชนแต่ละคนได้ยินพวกอัครสาวกพูดภาษาของตน… ข้อคิด…ในวันสมโภชพระจิตเจ้า เราได้แลเห็นหมู่คณะใหม่คณะหนึ่งได้เกิดขึ้น คือพระศาสนจักร…เป็นวันที่บรรดาอัครสาวกได้ออกจากห้องชั้นบน ที่ซึ่งพวกเขาได้ซ่อนตัวอยู่เพราะกลัวพวกยิว […]
ข้อคิดสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ ปี B มก 16:15-20…ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง…พระเจ้าทรงรับพระเยซูเจ้าขึ้นสู่สวรรค์และให้ประทับ ณ เบี้องขวา… วันนี้ เราทำการสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ […]
ข้อคิดอาทิตย์ที 6 เทศกาลปัสกา ปี B ยน 15:9-17…นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย… […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลปัสกา ปี B ยน 15:1-8…กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา ปี B ยน 10:11-18…ผู้เลี้ยงแกะที่ดียอมสละชีวิตเพื่อแกะของตน…เรายังมีแกะอื่นๆซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้…จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว ในบรรดาภาพลักษณ์ทั้งหลายของพระเยซูเจ้าที่เรามีอยู่ ภาพลักษณ์ที่น่ารักที่สุดภาพหนึ่ง ก็น่าจะเป็นภาพของ“ผู้เลี้ยงแกะที่ดี”และเป็นองค์พระเยซูเจ้าที่ได้ทรงใช้ภาพนี้เพื่อหมายถึงพระองค์เอง…ให้เราลองสำรวจดูตัวเราเองว่าเราได้มีความไว้เนื้อเชื่อใจและได้พยายามติดตามอย่างใกล้ชิดพระผู้เลี้ยงแกะที่ดีท่านนี้อย่างไรบ้าง?… […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่3เทศกาลปัสกา ปี B ลก24: 35-48…ท่านวุ่นวายใจทำไมเพราะเหตุใดท่านจึงมีความสงสัยในใจจงดูมือและเท้าของเราซิเป็นเราเองจริง…พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม… ในพระวรสารเราจะพบว่าบรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้ากำลังสนทนากันอยู่ถึงเรื่องของพระองค์พวกเขาที่ได้รับบาดแผลหัวใจแต่พระเยซูเจ้าได้ทรงปรากฎองค์ให้พวกเขาได้แลเห็นและได้ทรงประทานสันติสุขของพระองค์ให้กับพวกเขาพลางได้มอบพันธกิจให้กับพวกเขาเพื่อเป็นการสานต่อพันธกิจของพระองค์ ข้อคิด…ในบทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือกิจการอัครสาวก(กจ3: 13-15. 17-19) นักบุญเปโตรได้แสดงความกล้าหาญอย่างยิ่งใหญ่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับประชาชนที่ได้มีส่วนร่วมต่อการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้าอย่างไรก็ตามท่านก็ได้แก้ตัวให้กับพวกเขาพลางบอกว่าที่พวกเขาได้ทำลงไปนั้นก็เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยประการฉะนี้ท่านจึงได้ให้แรงบันดาลใจแก่พวกเขาด้วยคำอธิษฐานขององค์พระเยซูเจ้าขณะที่กำลังจะสิ้นพระชนม์ว่า“ข้าแต่พระบิดาเจ้าโปรดยกโทษให้พวกเขาพวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรลงไป” ท่านได้เร่งรัดให้ประชาชนทำการกลับใจใช้โทษบาปพลางให้คำมั่นสัญญากับพวกเขาว่าถ้าหากพวกเขาทำเช่นนั้นบาปของพวกเขาก็จะได้รับการอภัย […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกาปีB ยน20:19-31…โทมัสตอบว่า“ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปูและไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายของพระองค์ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด”…“องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า” …คงเป็นความเข้าใจผิดที่เชื่อว่าความเชื่อศรัทธาในองค์พระเยซูเจ้าสำหรับคนที่ได้เห็นพระเยซูเจ้าเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสำหรับพวกเราที่ไม่ได้เห็นพระองค์เหมือนพวกเขา…พระวรสารเองได้แสดงให้เห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้เห็นพระเยซูเจ้าแต่ก็ไม่ได้เชื่อในพระองค์เพราะแลเห็นแล้วก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเชื่อเพราะการที่จะเชื่อนั้นเรียกร้องการตัดสินใจ… ข้อคิด…จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าใครที่อยากจะมีความเชื่อความศรัทธาในพระเจ้าและในองค์พระเยซูเจ้านั้นจะสามารถได้มาง่ายๆพระวรสารได้แสดงให้เห็นว่าแม้พวกอัครสาวกที่ใช้ชีวิตอยู่กับพระเยซูเจ้าก็มีปัญหาในเรื่องของความเชื่อเหมือนกันโทมัสมิใช่เป็นอัครสาวกเพียงคนเดียวที่สงสัยว่าพระเยซูเจ้าได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพจริงๆหรือเปล่าอัครสาวกองค์อื่นๆก็มีความสงสัยคล้ายๆกันนักบุญมาระโกบอกพวกเราว่าเมื่อพระเยซูเจ้าได้ประจักษ์ให้กับพวกเขาได้แลเห็นในเวลาเย็นของวันอาทิตย์ปัสกานั้นพระองค์ได้ทรงตำหนิพวกเขาสำหรับความเชื่อยากและความใจแข็งกระด้างของพวกเขาเพราะว่าพวกเขามิได้เชื่อคนที่ได้แลเห็นพระองค์หลังจากที่พระองค์ได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว(มก16: 14) เราอาจจะเห็นใจพวกอัครสาวกเพราะการที่พระเยซูเจ้าต้องถูกตรึงที่ไม้กางเขนนั้นเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจและความเชื่อมั่นศรัทธาในพระองค์จนหมดสิ้นพวกเขาได้ตั้งความหวังไว้อย่างมากในการติดตามองค์พระเยซูเจ้าพวกเขาได้ละทิ้งอาชีพการงานของตนพูดง่ายๆก็คือพวกเขาได้ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะติดตามพระองค์และหวังจะได้เป็นใหญ่เป็นโตถ้าหากพระองค์ประสบความสำเร็จทางการเมืองและจู่ๆพระองค์ก็จากไปเสียอย่างนั้นแหละการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะประเมินได้สำหรับพวกเขาค่านิยมและความหมายของสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกเขาไว้กำลังถูกท้าทายอย่างหนักไม่ว่าจะเป็นการเคยร่วมโชคชะตาเดียวกันกับพระองค์การเคยกินอยู่และทำอะไรต่างๆด้วยกันกับพระองค์ความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีต่อพระองค์และฃีวิตที่เหลือของพวกเขาแต่นี้ต่อไปจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครจะรับประกันให้ได้ […]