ข้อคิดอาทิตย์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา ปี B มก 1: 40-45 …พระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ สัมผัสคนโรคเรื้อน ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” ทันใดนั้น โรคเรื้อนก็หาย… ในสมัยพระธรรมเก่า ประชาชนจะไปแตะต้องคนที่เป็นโรคเรื้อนไม่ได้ เพราะเป็นโรคติดต่อ […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา ปี B มก 1: 40-45 …พระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ สัมผัสคนโรคเรื้อน ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” ทันใดนั้น โรคเรื้อนก็หาย… ในสมัยพระธรรมเก่า ประชาชนจะไปแตะต้องคนที่เป็นโรคเรื้อนไม่ได้ เพราะเป็นโรคติดต่อ […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา ปี B มก1: 29-39…พระเยซูเจ้าทรงรักษาหลายคนที่เป็นโรคต่างๆให้หายทรงขับไล่ปีศาจออกไป…พระองค์ทรงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่เสด็จออกจากบ้านไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนาที่นั่น ทุกๆวันพวกเราส่วนใหญ่ก็มักจะมีงานมีธุระยุ่งเกือบตลอดทั้งวันและผลลัพธ์ก็คือชีวิตทางจิตวิญญาณของเราก็ดูจะด้อยลงและน่าสงสารมากขึ้นดังนั้นพระวรสารของวันนี้จึงแสดงให้เราเห็นว่าท่ามกลางธุระการงานต่างๆพระเยซูเจ้าเองก็ยังหาเวลาอธิษฐานภาวนาเช่นเดียวกันพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณของพวกเราในขณะนี้และการอธิษฐานภาวนาในบางขณะของวันก็จะช่วยเราให้ได้มีโอกาสมีเวลาที่จะอยู่กับพระเจ้า… ข้อคิด…ในบทอ่านที่หนึ่งมหาบุรุษโยบเผชิญหน้ากับปัญหาของความทุกข์ทรมานคำอธิบายง่ายๆโดยทั่วๆไปในเรื่องนี้ก็คือว่าความทุกข์ทรมานมาจากการลงโทษของพระเจ้าสำหรับบาปที่เรามนุษย์ได้กระทำแม้ว่าโยบจะเป็นคนดีแต่เขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากมายการทนทุกข์ทรมานของโยบได้ทำให้เขามีทัศนะที่น่าหดหู่เศร้าสร้อยเกี่ยวกับชีวิตของเรามนุษย์ ส่วนในพระวรสาร(มก1: 29-39) การรักษามารดาของภรรยานักบุญเปโตรและคนป่วยอื่นๆให้หายและการขับไล่ปีศาจออกไปก็มิใช่เป็นคำตอบของพระเยซูเจ้าสำหรับคำถามที่ว่า“ทำไมเรามนุษย์ถึงต้องทนทุกข์ทรมาน?” แต่เมื่อมนุษย์มีความทุกข์ทรมานพระเยซูเจ้าก็ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์ทรมานพลางประกาศข่าวดีแห่งการช่วยให้รอดพ้น…นี่เป็นคำตอบด้วยการกระทำของพระองค์พระวรสารยังแสดงให้เห็นถึงความเร่งด่วนที่พระองค์จำเป็นต้องอุทิศตนให้กับการเทศน์สอนข่าวดีของพระเจ้าซึ่งเราสามารถเห็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดีในบทอ่านที่สองอันเป็นจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์(1 […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา ปี B มก1: 21-28…คำสั่งสอนของพระเยซูเจ้าทำให้ผู้ฟังรู้สึกประทับใจอย่างมากเพราะทรงสอนพวกเขาอย่างทรงอำนาจ…เขาสั่งแม้กระทั่งปีศาจและมันก็เชื่อฟัง พระวาจาของพระเยซูเจ้าเป็นพระวาจาที่พูดกับประชาชนอย่างผู้ทรงอำนาจหรืออย่างมีความน่าเชื่อถือนั่นเอง…ทำไม?…ก็เพราะว่าพระวาจาของพระองค์เป็นจริงดังที่พูดและเพราะพระวาจาของพระองค์สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ถ้าหากว่าเราจะได้นำพระวาจานั้นมาปฏิบัติแต่ว่าบ่อยๆครั้งเรามักจะพึงพอใจที่จะฟังพระวาจานั้นเฉยๆโดยไม่นำเอาไปปฏิบัติ… ข้อคิด…พระวรสารในวันนี้นักบุญมาระโกเริ่มจะบอกพวกเราถึงสิ่งที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำในการประกาศพระอาณาจักรพระเจ้า ในบทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติซึ่งนำเสนอโมเสสว่าเป็นประกาศกแห่งอุดมการณ์เพราะโดยปรกติแล้วประกาศกจะไม่พูดด้วยอำนาจของตนเองแต่จะพูดในนามของพระเจ้าชนชาวยิวเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงแต่งตั้งประกาศกท่านหนึ่งเฉกเช่นโมเสสในวันสุดท้ายคริสตชนรุ่นแรกๆถือว่าพระเยซูเจ้าคือประกาศกที่พวกเขาได้ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาคำสั่งสอนของพระองค์เป็นคำสั่งสอนที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจและมีความน่าเชื่อถือด้วยอัศจรรย์หรือเครื่องหมายต่างๆในพระวรสารของวันนี้เราจะเห็นว่าพระเยซูเจ้าได้ทรงเทศน์สอนอย่างผู้มีอำนาจอย่างไรและประชาชนคนทั่วๆไปได้ยอมรับรู้สิ่งต่างๆเหล่านี้อย่างไร ทุกวันนี้เราได้ยินคำกล่าวที่สะใจฟังแล้วรู้สึกว่ามันในอารมณ์จากหลากหลายบุคคลสาธารณะแต่ว่าก็ทำให้รู้สึกหดหู่เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาพูดเพราะมีน้อยคนมากที่พูดอย่างผู้มีอำนาจและได้รับการปฏิบัติในชีวิตของพวกเขาจากสิ่งที่พวกเขาได้พูด คำพูดของคนที่อยู่ในอำนาจหรือของนักการเมืองคำพูดของพวกเขาอาจจะมีคนฟังแต่ก็ไม่มีใครอยากถืออย่างจริงจังว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นคำพูดที่ไว้ซึ่งอำนาจและจะได้รับการปฏิบัติ ถ้าหากว่ามีบุคคลสาธารณะจำนวนมากขาดความน่าเชื่อถือในคำพูดของพวกเขาเพราะผู้พูดเองก็ไม่เชื่อไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังพูดอยู่เพราะมิได้นำเอาไปปฏิบัติดังนั้นคำพูดของพวกเขาก็จะเป็นอะไรที่หลอกตัวเองและหลอกคนอื่นด้วย นอกจากนั้นลักษณะนิสัยของผู้พูดก็เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะถ้าลักษณะนิสัยของบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ตรงไปตรงมาแล้วความน่าเชื่อถือของคนๆนั้นก็จะต้องถูกตีค่าต่ำลงไปมากเลยเราคงจะไม่สามารถเชื่อใจในสิ่งที่เขาพูดได้ […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ปี B มก1: 14-20…เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้วจงกลับใจและเชื่อข่าวดีเถิด…จงตามเรามาเถิดเราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์ พระเยซูเจ้าได้ทรงเริ่มเทศนาสั่งสอนประชาชนด้วยการเรียกร้องให้พวกเขาทำการกลับใจใช้โทษบาป…และทุกครั้งที่พวกเราเริ่มพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณพระองค์ก็ทรงเรียกร้องพวกเราแบบเดียวกันคือให้เราได้รู้สำนึกถึงบาปของเราและเป็นทุกข์ถึงบาปนั้นพลางขออภัยโทษและขอความรักจากพระองค์ ข้อคิด…เนื้อหาครึ่งแรกของพระวรสารของนักบุญมาระโก(มก1: 1-8: 26) จะพูดถึงศาสนบริการแห่งการรักษาให้หายและการเทศนาสั่งสอนขององค์พระเยซูเจ้าในแคว้นกาลิลี […]
อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา ปี B ยน1: 35-42…เมื่อศิษย์ทั้งสองคนเห็นที่ประทับของพระเยซูเจ้าก็พักอยู่กับพระองค์ในวันนั้น… ในพระวรสารของวันนี้เราจะได้ยินได้ฟังพระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สองคนแรกของพระองค์ว่า“มาดูซิ”…ศิษย์ทั้งสองก็ได้ตอบรับคำเชิญของพระองค์และได้พบกับพระองค์ซึ่งได้ช่วยให้ชีวิตของเขาได้เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง…ทุกๆครั้งเวลาที่เรามาร่วมเฉลิมฉลองพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณเราก็มีโอกาสพบปะกับพระองค์…ให้เราได้เตรียมตัวเตรียมจิตใจของเราให้พร้อมสำหรับการพบปะนี้เพื่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ข้อคิด…แม้ว่าปีพิธีกรรมปีนี้ในวันอาทิตย์จะใช้พระวรสารของนักบุญมาระโกแต่เพื่อเป็นการเคารพต่อธรรมประเพณีอันเก่าแก่ของพระศาสนจักรที่ได้นำเสนอการเผยแสดงให้กับผู้คนที่แตกต่างกันออกไปขององค์พระเยซูเจ้าจึงในวันอาทิตย์ที่สองเทศกาลธรรมดานี้ได้เลือกเอาพระวรสารของนักบุญยอห์นซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรับรู้ที่ค่อยเป็นค่อยไปต่อองค์พระเยซูเจ้าว่าพระองค์เป็นใครโดยผ่านทางการเป็นประจักษ์พยานของท่านยอห์นบัปติสต์และการยืนยันถึงความเชื่อศรัทธาที่สานุศิษย์รุ่นแรกๆมีต่อพระองค์…จากพระวรสารของวันนี้เราจะเห็นว่าท่านยอห์นบัปติสต์ได้เรียกพระเยซูเจ้าว่า“นี่คือลูกแกะของพระเจ้า”และนักบุญอันดรูว์เรียกพระองค์ว่า“พระเมสสิยาห์” เนื้อหาที่สำคัญของบทอ่านในวันอาทิตย์นี้ก็คือ“การเรียกและการตอบสนอง” …ในบทอ่านแรก(1 ซมอ3: […]
ข้อคิดฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง ปี B มก1: 7-11…พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน…พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ดุจนกพิราบและมีเสียงมาจากฟากฟ้าว่า“ท่านเป็นบุตรที่รักของเราเป็นที่โปรดปรานของเรา” เรามักจะชอบฉลองวันเกิดของเราแต่ว่าไม่เคยคิดที่จะฉลองวันรับศีลล้างบาปของเราที่จริงวันที่เราได้รับศีลล้างบาปก็เป็นวันเกิดของความเป็นคริสตชนของเรา…ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณของเราวันนี้เราฉลองการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าก็เป็นการฉลองการรับศีลล้างบาปของเราแต่ละคนด้วยดังนั้นขอให้เราได้รื้อฟื้นพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาปที่อยู่ในตัวเราแต่ละคนด้วย ข้อคิด…บนฝั่งแม่น้ำจอร์แดนท่านยอห์นแบปติสต์ประกาศเรื่องการกลับใจสำหรับจะต้อนรับอาณาจักรของพระเจ้าซึ่งกำลังจะมาถึงและพร้อมๆกับคนอื่นๆพระเยซูเจ้าได้เสด็จลงไปในน้ำเพื่อรับพิธีล้างจากท่านยอห์น […]
ข้อคิดสอนใจสมโภชพระคริสตเจ้าทรงแสดงองค์ ปี B มธ 2: 1-12…พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์…บรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เข้าไปในบ้านพบพระกุมารกับพระนางมารีย์ พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพะองค์ […]
ข้อคิดสอนใจฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์และนักบุญโยเซฟ ปี B บสร 3: 3-7, 14-17ก…บุตรที่ให้เกียรติบิดา จะมีอายุยืน…ใครเคารพนับถือบิดา ก็จะประสบความสุขสันต์หรรษากับบุตรของตนเอง…บุตรที่เชื่อฟังพระเจ้า […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี B ลก1: 26-38…ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง…ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด… ในขณะที่การบังเกิดของกุมารน้อยท่านหนึ่งกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะความสนใจของเราก็จะพุ่งเป้าไปที่ผู้เป็นมารดาเนื่องจากเรากำลังจะทำการสมโภชการสมภพของพระคริสตเจ้าจึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่เราจะพบว่าพระแม่ได้กลายเป็นจุดสนใจของพระวรสารในวันนี้ ข้อคิด…“พระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์”…พระนางมารีย์ทรงมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในธรรมล้ำลึกแห่งพระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์และก็มีอีกท่านหนึ่งซึ่งได้มีส่วนร่วมในธรรมล้ำลึกนี้กับพระนางโดยเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์แห่งการช่วยให้รอดพ้นนี้ด้วยนั่นก็คือชายที่ได้หมั้นกับพระนาง“โยเซฟแห่งนาซาเร็ธ”…พระเจ้าได้ทรงนำพาท่านโยเซฟให้เข้าสู่ธรรมล้ำลึกแห่งการเป็นพระมารดาของพระนางมารีย์ซึ่งได้เกิดขึ้นเดชะฤทธิ์อำนาจขององค์พระจิตเจ้าโดยที่พระนางนั้นยังคงเป็นพรหมจารีอยู่ จากบทอ่านที่หนึ่งของหนังสือซามูแอลฉบับที่สอง(2 ซมอ7: 1-5. […]
ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 3 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีB ยน1: 6-8. 19-28…อาทิตย์ที่สามเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเป็นอาทิตย์แห่งความชื่นชมยินดี“Gaudete Sunday” เพราะใกล้วันสมโภชพระคริสตสมภพ…ท่านยอห์นแบปติสต์เสียงร้องแห่งถิ่นทุรกันดารก็เป็นเสียงร้องแห่งเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า… ท่านยอห์นมาในฐานะพยานเพื่อเป็นพยานถึงแสงสว่าง…ท่านเป็นเสียงของผู้ที่ร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า“จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด”…มีผู้หนึ่งประทับอยู่ในหมู่ท่านเป็นผู้ที่พวกท่านไม่รู้จักซึ่งก็หมายถึงพระเยซูเจ้าซึ่งเป็นองค์ความสว่างที่กำลังใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขาแต่พวกเขาหารู้จักพระองค์ไม่…แต่ว่าเรารู้จักพระองค์แล้วและพระองค์ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกเราในขณะนี้ขณะที่เราชุมนุมกันเพื่อเฉลิมฉลองพิธีบูชาขอบพระคุณของพระองค์ ข้อคิด…คำที่เป็นกุญแจในคริสตศาสนาของเราก็คือ“ความรอดพ้น” […]